ปัจจุบันความเข้าใจเรื่องแร่ใยหิน ยังทำให้คนไทยไม่อาจเข้าใจได้ว่า แร่ชนิดนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากแร่ใยหินที่กรมการแพทย์เก็บข้อมูลได้เมื่อ 4 ปีที่แล้วมีเพียง 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 75 ปีทำงานสัมผัสกับแร่ใยหินเป็นเวลา 24 ปี

จากข้อมูลดังกล่าว อาจเข้าใจได้ว่า การสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน ไม่เป็นอันตรายมากมายอย่างที่หลายคนเข้าใจ….

หาเป็นเช่นนั้นไม่…ยังมีข้อมูลบางเรื่องเกี่ยวกับแร่ใยหินที่คนในสังคมควรรับรู้ สารพิษที่ฟุ้งกระจายจากแร่ใยหิน หากสูดดมบ่อยๆ โดยไม่รู้ตัวและไม่ได้ป้องกันสารพิษก็จะสะสมในร่างกาย โดยสารพิษเหล่านี้ใช้เวลาฟักตัวในช่วง 30- 40 ปี ทำให้ผู้ที่สูดดมเกินมาตรฐาน ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดหรือมะเร็งเยื่อหุ้มปอด ทางองค์การอนามัยโลกและองค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติประเทศต่างๆ เล็งเห็นผลเสียของแร่ใยหินที่มีต่อสุขภาพมนุษย์ จึงได้ยกเลิกการผลิต นำเข้าและส่งออกแร่ใยหิน รวมๆ เกือบ 60 ประเทศ



สาเหตุที่บ้านเรามีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากแร่ใยหินน้อยมาก เนื่องจากประเทศไทยมีการใช้แร่ใยหินเมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว ซึ่งต่างจากประเทศที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมมายาวนาน โดยแพทย์ที่ทำงานด้านนี้อย่างต่อเนื่องในเมืองไทยคาดการณ์ว่า น่าจะมีผู้ป่วยจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับแร่ใยหินปีละกว่า 100 ราย ซึ่งเป็นข้อมูลที่คาดการณ์ในหลายปีที่แล้ว

ล่าสุดสมัชชาสุขภาพ เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค และสมาพันธ์อาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ร่วมกันผลักดันจนคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ยกเลิกการผลิต นำเข้า และส่งออกแร่ใยหินทุกชนิด และเรื่องนี้อยู่ในวาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

ในอนาคตอันใกล้เมืองไทยอาจมีการยกเลิกการผลิตและนำเข้าแร่ใยหิน แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาที่ตามมา ก็คือ ขยะพิษจากการรื้อถอนกระเบื้องหรือวัสดุที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน หากไม่มีมาตรการป้องกัน ก็จะฟุ้งกระจายไปสู่ประชาชนที่ไม่รู้ถึงพิษภัยของแร่ใยหิน

เนื่องจากคุณสมบัติของแร่ใยหินที่มีความเหนียว ทนต่อความร้อน กรด ด่าง และสารเคมีได้ดี ทำให้แร่ชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์หลายอย่าง อาทิ ฉนวนกันความร้อน หม้อไอน้ำ กระเบื้องมุงหลังคา ท่อน้ำกันความร้อน กระเบื้องยางปูพื้น ผ้าเบรก และคลัตช์ กระเบื้องปูพื้นไวนิล กล่องพลาสติกบรรจุแบตเตอรี่ ชุดป้องกันไฟ ฯลฯ

เนื่องจากในเมืองไทยไม่มีแร่ใยหินในธรรมชาติ จึงต้องมีการนำเข้าเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในวัสดุที่ต้องการความทนทาน แร่ชนิดนี้มีลักษณะเป็นเส้นใยรวมกันเป็นมัด กลุ่มที่มีเส้นใยแบบโค้งงอเรียกว่า ไครโซไทล์ นิยมใช้ในปัจจุบัน

ทีมาจาก ทีมข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวไทย อสมท ช่อง 9 วันที่ 13 สิงหาคม 2555