เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมร่วมกับ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รศ.ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม นายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะ ผู้แทน รมว. กระทรวงพาณิชย์ นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาโรงพยาบาลเอกชนเก็บค่ารักษาพยาบาลแพงเกินจริง
          โดย นพ.รัชตะเปิดเผยหลังการประชุม ว่า เบื้องต้นได้สรุปแนวทางแก้ปัญหาเป็น 3 ระยะ คือ 1.ระยะสั้น จะประสานกับ โรงพยาบาลเอกชน ให้นำอัตราค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าเซอร์วิสชาร์จต่างๆ เช่น ค่าห้อง ค่าเครื่องมือ ค่าเตียง ฯลฯ ขึ้นเว็บไซต์ ของโรงพยาบาลและเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล ตัดสินใจเลือกรับบริการว่าแต่ละแห่งแตกต่าง กันเท่าไร ซึ่งน่าจะดำเนินการได้ภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังมีสายด่วนให้ประชาชน ร้องเรียนเรื่องการรับบริการโรงพยาบาลเอกชนอีก 3 ช่องทาง คือ สายด่วนสคบ.1166 สบส. 0-2193-7999 และสายด่วนสปสช.1330
          2.ระยะกลาง จะตั้งคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนมาพิจารณาแนวทางการควบคุมราคายาไม่ให้สูงจนเกินไป เพราะยาถือเป็นสินค้าควบคุม ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 จึงควรกำหนดให้ชัดเจนว่า ยาแต่ละหมวด แต่ละกลุ่ม ควรมีราคากลางเท่าไร โดยคำนวณ จากต้นทุน และกำไรสูงสุดที่จะบวกเพิ่มต้องไม่เกินเท่าไร กี่เปอร์เซ็นต์
          3.ระยะยาว คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้น ดังกล่าวจะพิจารณาค่ารักษาพยาบาลด้านอื่นๆ เช่น ค่าหัตถการ และจะประสานความ ร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชน ในการใช้ทรัพยากรบุคคลร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ ในการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ยืนยันว่ามาตรการทุกระยะจะต้องมีการ หารือกับโรงพยาบาลเอกชนก่อน โดยเฉพาะ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อพิจารณาร่วมกัน คาดว่าจะเชิญมาหารือในสัปดาห์หน้า
          นายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า แม้ยาจะเป็นสินค้าควบคุม แต่ที่ผ่านมา ไม่มีมาตรการในการควบคุมราคา หรือจำกัดปริมาณ ซื้อขายนั้น เพราะจะเป็นการควบคุมในช่วงที่ เกิดภาวะวิกฤติเท่านั้น เช่น ภัยพิบัติ ภาวะขาดแคลน สงคราม เป็นต้น ซึ่ง รมว.พาณิชย์จะสามารถออกประกาศมาตรการควบคุมได้ทันทีไม่ต้องผ่าน ครม. สำหรับการคุมราคาโดยการกำหนดราคาขั้นสูง หรือ อัตราส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับราคาขายก็สามารถทำได้ โดยออกเป็นประกาศราคากลางว่าด้วยสินค้าและบริการ ภายใต้อำนาจของ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ส่วนจะกำหนดอัตราเท่าไรต้องมี การพิจารณาในคณะทำงานที่ รมว.สธ.ตั้งขึ้น ซึ่งเมื่อเป็นสินค้าควบคุมผู้กระทำผิดก็จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท]

ที่มา แนวหน้า