ณ โรงแรมอิมพีเรียลควีนปาร์ค วันที่ 18 มิ.ย.2553 เวลา 13.30-17.00 น. จัดโดย หนังสือพิมพ์สยามรัฐ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี นายแพทย์ระเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวปาฐกถามีใจความสรุปดังนี้ - การปฏิรูปประเทศต้องปฏิรูปในทุกด้าน จะทำเฉพาะการเมืองไม่ได้ - คณะเรากลุ่มหนึ่งได้พูดคุยเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ เพราะคาดมากว่าปีแล้วจะมีวิกฤติ จึงต้องทำใน 10 เรื่อง
1 การสร้างจิตสำนึกใหม่ให้เห็นแก่ส่วนรวม
2 สร้างสัมมาอาชีพเต็มพื้นที่ ปัจจัยนี้จะทำให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข มีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้
 3 สร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น เนื่องจากรวมศูนย์อำนาจ ไม่กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นปกครองตนเอง
4 สร้างการศึกษาที่พาชาติออกจากวิกฤติ เพราะการศึกษาไทยี่ผ่านมาผิดพลาด สร้างความอ่อนแอให้คนไทยชาติจนไม่มีพลังจะพาชาติพ้นวิกฤติได้ มหาวิทยาลัยเอาวิชาเป็นตัวตั้งไม่ได้เอาชีวิตและสังคมเป็นตัวตั้ง
 5 สร้างธรรมาภิบาลการเมือง การปกครอง ระบบความยุติธรรมและสันติภาพ ต้องให้การเมืองดีกว่าตอนนี้ และการอยู่ร่วมกันได้ต้องมีความเป็นธรรมกับความยุติธรรม
6 สร้างระบบสวัสดิการสังคมที่ก้าวหน้า ไม่ใช่เที่ยวไปแจก แต่ต้องส่งเสริมความสามารถของสังคม เช่น ธนาคารประชาชน ธนาคารเกษตรกร
7 สร้างความสมดุลของสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
8 ปฏิรูประบบสุขภาพ สร้างองค์กรต่างๆเป็นเครื่องมือต่างๆ เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ โดยทำให้ทุกระบบเกี่ยวโยงทุกเรื่องกัน
9 สร้างสมรรถนะการวืจัยวิทยาศาสตร์ชาติ
10 พัฒนาระบบการสื่อสาร ให้คนไทยรู้ความจริงและแลกเปลี่ยนทั่วถึงทำให้ข้อมูลความรู้เท่าเทียม - วิกฤติครั้งนี้เป็นหน้าต่างโอกาสซึ่งนานๆจะเปิดครั้งหนึ่ง ต้องให้ชุมชนช่วยกันทำแผน ช่วยกันขับเคลื่อน เกิดการพัฒนาแบบบูรณาการ เชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา ประชาธิปไตย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ กล่าวปาฐกถามีใจความสรุปดังนี้ -
  วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ที่ว่าร้ายแรงแล้ว แต่วิกฤติในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ทำลายคุณค่าที่เคยเป็นรากฐานของประเทศไทย เป็นผลพวงจากความล้มเหลวการพัฒนาประเทศในหลายสิบปีที่ผ่านมา - สื่อต่างประเทศสวิเคราะห์ว่า ไทยผิดพลาดที่สุดคือละเลยการปฏิรูปอย่างจริงจัง ไม่มีแผนในการปฏิรูปจริงจัง - ยกตัวอย่างการปฏิรูปของอินโดนีเซียที่ใช้เวลาแค่ 10 กว่าปี จากวิกฤติเมื่อปี 1997 จนสามารถมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ การเมือง เนื่องจาก ผู้นำดึงคนเก่งและคนดีเข้ามาช่วยทำงานเพื่อประเทศ ขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจัง ขจัดการทุจรติในการเลือกตั้ง คุมเข้มเรื่องการเงินการคลัง - เสนอว่าในส่วนของไทย การปฏิรูปการเมือง ต้องจัดการเรื่องการซื้อเสียง ให้ประชาชนได้ข้อมูลอย่างพอเพียง - ระบบการเงินการคลังต้องปฏิรูป ไม่เช่นนั้นไม่มีงบไปลงทุนในเรื่องรัฐสวัสดิการ - พัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม รื้อระบบการศึกษาใหม่ - ปฏิรูประบบราชการ รวมทั้งกฏหมาย เพื่อให้เกิดความมั่นคง