คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

          แพทย์สมาพันธ์อาชีวอนามัยฯ รุกมาตรการเมืองไทยไร้แร่ใยหิน จี้หยุดใช้ใน 5 ผลิตภัณฑ์ทันที อย่าถ่วงเวลา หลังพบก่อโรคมะเร็งปอด-เยื่อหุ้มปอด เมื่อ วันที่ 27 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) มีการจัดเวที สช. เจาะประเด็น “เมืองไทยไร้แร่ใยหิน…คืบหน้าหรือคืบคลาน” เพื่อรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เรื่องมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน

          โดยนพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ที่ปรึกษา สช. กล่าวว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งว่าจะจัดให้มีการศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ในการยกเลิกการใช้แร่ใยหิน ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำทีโออาร์เพื่อว่าจ้างผู้วิจัยแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

          ผศ.พญ.พิชญา พรรคทองสุข อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เครือข่ายแพทย์ในนามของสมาพันธอาชีวอนามัยความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำ งาน ร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์การแก้ไขและป้องกันปัญหาโรคจากแร่ใยหิน
           โดยเสนอ 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
           1.การสร้างความตระหนักต่อนายจ้างและลูกจ้างเกี่ยวกับอันตรายของแร่ใยหิน กลุ่มเสี่ยงสัมผัสแร่ใยหิน อาการของโรค และสิ่งของที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนผสม
           2.สร้าง ความตระหนักต่อแพทย์ที่ตรวจ เพื่อฝึกทักษะการวินิจฉัยโรค การให้คำแนะนำและการรายงาน
          3.การสร้างช่องทางให้แก่แพทย์ที่ตรวจพบ หรือสงสัยว่าพบลูกจ้างที่เป็นโรคจากแร่ใยหิน เพื่อรายงานเข้าสู่ระบบ
          4.การเตรียมความพร้อมและสร้างความตระหนักของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อพัฒนาความสามารถในการวินิจฉัยโรค และการรักษา
          5.พัฒนามาตรฐานการทำงานกับวัสดุที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบอย่างปลอดภัย

          ผศ.พญ.พิชญา กล่าวอีกว่า แร่ใยหินก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอดและพังผืดที่ปอด เพราะเส้นใยแร่ใยหินจะฟุ้งกระจายในอากาศและเส้นใยที่มีขนาดเล็กมากจะเข้าทาง ระบบน้ำเหลืองจนถึงเยื่อหุ้มปอด “กระทรวงอุตสาหกรรมควรยกเลิก การใช้แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 5 ชนิดทันที ไม่ควรถ่วงเวลาด้วยการศึกษาข้อมูลอีก 6 เดือน คือกระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องยาง กระเบื้องแผ่นเรียบ ท่อน้ำ และผ้าเบรก โดยใช้สารทดแทนแร่ใยหินแทน ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนผสม เช่น ไดร์เป่าผม เบรกรถสิบล้อ ควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ” ผศ.พญ.พิชญากล่าว

          ทั้งนี้ ผู้บริโภคต้องสังเกตฉลากสัญลักษณ์ที่ระบุข้อความ “อาจก่อให้เกิดมะเร็งและโรคปอด” ซึ่งมีการบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 หรือสอบถามจากผู้ขายโดยตรง หน้า: 3(บนซ้าย)Ad Value: 63,000 PRValue (x3): 189,000 20110928_1550_HA_Khom Chad Luek