คณะทำงานบูรณะปรับปรุงฟื้นฟูถ้ำหลวง ระบุ ระดับน้ำในถ้ำไม่เอื้อต่อการสำรวจ ขณะที่ ครม.มีมติยกวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 29 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานบูรณะปรับปรุงฟื้นฟู วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานฟื้นฟู สำรวจและประเมินสถานการณ์ภายในถ้ำหลวง หลังจากเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา คณะทำงาน นำโดย นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ (หน่วยซีล) ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยซีล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ เข้าสำรวจภายในถ้ำหลวงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอล หมูป่าอคาเดมี และผู้ช่วยโค้ช รวม 13 คน แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมเก็บกู้อุปกรณ์ที่คงค้างภายในและสำรวจเพื่อเตรียมเปิดถ้ำในอนาคต

นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กล่าวรายงานต่อที่ประชุมว่าจากปฏิบัติการที่ผ่านมา พบว่าระยะทางจากปากถ้ำเข้าไปจนถึงโถง 3 ประมาณ 2 กิโลเมตร ไปถึงบริเวณสามแยก ก่อนเลี้ยวซ้ายไปทางเนินนมสาวและหาดพัทยา ซึ่งเป็นจุดที่พักของทีมหมูป่า พื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยโคลนเลนระยะทางกว่า 450 เมตร ลักษณะเป็นท่อยาวขนาดใหญ่ ส่วนตรงสามแยกยังมีน้ำท่วมและมีทรายอุดรูที่จะใช้เดินทางต่อไปอีกด้วย ทำให้คณะได้ยุติการสำรวจ และได้พบถังอัดอากาศคงค้างอยู่ภายใน 379 ถัง อุปกรณ์สื่อสาร กระดาษฟรอยด์ เข็มฉีดยาสำหรับฉีดเด็กๆ สายไฟฟ้า ท่ออากาศ เครื่องสูบน้ำ และขยะจำนวนมาก ซึ่งคณะสำรวจได้บันทึกข้อมูลและภาพถ่ายไว้แล้ว

ขณะที่ นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องทำการวิเคราะห์ว่าอุปกรณ์ใดสมควรที่จะนำออกมาจากถ้ำก่อน ส่วนการจะเข้าไปสำรวจอีกครั้งหรือนำอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาจำแนกประเภท และจะนำไปติดตั้งไว้ ณ จุดใด หรือจะส่งมอบให้หน่วยงานต้นสังกัด ต้องใช้เวลา เนื่องจากปัจจุบันถ้ำหลวงอยู่ภายใต้คำสั่งกองอำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ซึ่งยังไม่อนุญาตให้ผู้ใด เข้า–ออก เพื่อความปลอดภัยจึงยังไม่มีกำหนดการเข้าไปสำรวจอีกครั้งคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ อยู่ระหว่างผลักดันให้วนอุทยานถ้ำหลวงฯ เป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเต็มตัว เพื่อจะได้พัฒนา ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมจำนวนมาก จึงจะมีการดำเนินการด้านนี้เป็นหลักก่อน คาดว่าทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณปลายปี 2562

ที่ประชุมรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยกฐานะวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ในรูปแบบอุทยานประวัติศาสตร์ โดยให้ นายกวี ประสมพล เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ขณะที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้นำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ฉก.ม.2 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง และเจ้าของพื้นที่ทำกินที่ติดกับแนวเขต ทำการสำรวจแนวเขต การพัฒนาและปรับปรุงถนน การจัดระเบียบร้านค้า การจราจร สถานที่จอดรถ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการในทุกด้านโดยเร็วที่สุด