จากข้อมูลสถานการณ์โรคที่เฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม –11 กรกฎาคม 2559 ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก ในพื้นจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้น 1,006 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 0-4 ปี และรองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5 – 9 ปี พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง เมื่อพิจารณาการระบาด โดยเทียบกับค่ามัธยฐานรายสัปดาห์ 5 ปีย้อนหลัง (2554-2558) พบว่า สัปดาห์ล่าสุดยังมีการระบาด
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น จึงขอให้คำแนะนำสำหรับการป้องกัน ควบคุมโรคมือ เท้า ปาก สำหรับศูนย์เด็กเล็ก และสถานศึกษา ดังนี้
1. เผยแพร่คำแนะนำเรื่องโรคมือ เท้า ปาก แก่ผู้ปกครองและเด็กนักเรียน รวมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อ โดยเฉพาะการล้างมือและการรักษาสุขอนามัยของสภาพแวดล้อมและแยกของใช้ไม่ให้ปะปนกันเช่น แก้วน้ำ ช้อนอาหาร ฯลฯ
2. เฝ้าระวังโดยตรวจสุขภาพเด็กทุกคน หากพบคนใดที่มีอาการ
โรคมือ เท้า ปาก ต้องรีบแยกออกและให้หยุดเรียน 7-10 วัน หรือจนกว่าจะหายป่วย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังเด็กคนอื่นๆ
3. พิจารณาปิดห้องเรียนที่มีเด็กป่วยหรือปิดทั้งโรงเรียนชั่วคราว (กรณีเด็กป่วยหลายห้อง หรือลายชั้นเรียน) ประมาณ 5-7 วัน
* หากพบว่ามีการระบาดของโรคมือเท้าปาก หรือมี ผู้ป่วยติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ในโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก พิจารณาให้ปิดชั้นเรียนที่มีเด็กป่วยมากกว่า 2 ราย หากมีการป่วยกระจายในหลายชั้นเรียนแนะนำให้ปิดโรงเรียนเป็นเวลา 5 วัน พร้อมทำความสะอาด อุปกรณ์รับประทานอาหาร ของเล่นเด็ก ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ และให้มั่นใจว่าน้ำมีระดับคลอรีนที่ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน
* ทำความสะอาดสถานที่เพื่อฆ่าเชื้อโรค บริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม สระว่ายน้ำ ครัว โรงอาหาร บริเวณที่เล่นของเด็ก สนามเด็กเล่น โดยใช้สารละลายเจือจงของน้ำยาฟอกขาว หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ตามบ้านเรือน แล้วเช็ดล้างด้วยน้ำสะอาด
* ทำความสะอาดของเล่น เครื่องใช้ของเด็กด้วยการซักล้างแล้วผึ่งแดดให้แห้ง
* หยุดใช้เครื่องปรับอากาศ เปิดระตู หน้าต่าง ผ้าม่านให้แสงแดดส่องให้ทั่วถึง