สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เตือน ประชาชนระวังไข้เลือดออกระบาด หลังมีสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดพบผู้ป่วย 219 ราย

สาธารณะสุขจังหวัดเชียงราย เตือนประชาชนระวังไข้เลือดออกระบาด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หลังมีสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดพบผู้ป่วย 219 ราย พบมากที่สุดที่อำเภอเวียงป่าเป้า นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยไข้เลือดออกที่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาและลาว จำนวน 25 ราย
นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายเปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2559 พบสถิติจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่จังหวัดเชียงราย เพิ่มขึ้นเป็นรายสัปดาห์ ล่าสุดจำนวน 219 ราย พบมากที่สุดที่อำเภอเวียงป่าเป้า จำนวน 91 ราย รองลงมาคือ อำเภอเมือง จำนวน 49 ราย แต่ไม่มีรายงานการเสียชีวิต ขณะที่อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอดอยหลวงยังไม่พบผู้ป่วยไข้เลือดออก นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยไข้เลือดออกที่เป็นแรงงานต่างด้าว อีก 25 ราย เป็นชาวเมียนมา 23 ราย และลาว 2 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุขได้วิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าในปีนี้จะมีผู้ป่วยไข้เลือดออกประมาณ 160,000 คน จึงได้ดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมา และให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกร่วมกับทุกภาคส่วนในชุมชนหมู่บ้าน เน้นการป้องกันโรค โดยการกำจัดยุงลายมากกว่าการเจ็บป่วยแล้วไปรักษา โดยขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์เพื่อลดจำนวนยุงลายให้มากที่สุด ตามมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ได้แก่ เก็บบ้านให้โล่ง เก็บเศษภาชนะไม่ให้เป็นที่เพาะพันธุ์ยุง และเก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด ทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก เพื่อป้องกันโรคจากยุงลาย คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
นอกจากนี้ได้เน้นย้ำโรงพยาบาลทุกแห่ง เข้มงวดการตรวจรักษาโรคไข้เลือดออก ตามแนวทางการตรวจรักษาที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำไว้ โดยจัดระบส่งต่อผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และจัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในจังหวัด เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาแก่แพทย์ในโรงพยาบาลชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ หากพบผู้ป่วยมีไข้สูงลอยไม่ควรกินยาลดไข้จำพวกแอสไพรินหรือไอบู โพรเฟน และหากกินยาแล้วไข้ไม่ลด อาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาต่อเนื่องให้พ้นระยะอันตราย โดยเฉพาะในช่วงที่ไข้เริ่มลดมีความเสี่ยงเกิดภาวะช็อคได้ ผู้ป่วยจะซึมลง อ่อนเพลีย อาจมีเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน หรือถ่ายอุจจาระสีดำ ต้องรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว หรือหากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูล ติดต่อได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 สุนี บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ จ.เชียงราย รายงาน