รายงานสุขภาวะภาคเหนือ รายการสานใจสานพลังเรื่อง .ชาวสวนลำไยได้เฮ.
รายงานโดย ลุงจ๊าง สันป่าตอง หรือ นาย ไพศาล ภิโลคำ
สวัสดีครับท่านผู้ฟังและผู้ชมรายการ สถานี วิทยุโทรทัศน์ สุขภาพแห่งชาติ วันนี้ ลุงจ๊าง สันป่าตอง ขอรายงานข่าว
เมื่อย่างเข่าเดือน ๘ เหนือ หรือ เดิน ๑๐ ภาคเหนือ ตรงกับราว ๆเดือน มิถุนายน หรือ เดือน กรกฎาคม ของทุกปี เป็นเดือนที่ย่างเข้าสู่ฤดู การเข้าพรรษา ทางล้านนา เริ่มที่จะเก็บเกี่ยวลำไย ที่มีผลผลิตเต็มที่ ช่วงเข้าพรรษาหากตามฤดูกาล แต่ว่าปีที่ผ่านมาของการผลิดอกขอช่อลไยปีปลายปี พ.ศ.๒๕๕๗ ที่ผ่านมามีปัญหาอย่างมากเรื่อง ภาวะของสภาพอากาศ เป็นช่วงของปรากฏการณ์ “แอลนิโญ่” ภาวการณ์ขาดแคลนแล้งน้ำค่อนข้างมา ไม่มีน้ำเพื่ออุปโภค บริโภคเพียงพอ ลำไยจะต้องออกผลิช่อประมาณเดือน ธันวาคม หากสังเกตการณ์ปีนี้การผลิดอกตามธรรมชาติมีน้อยเพราะความแห้งแห้ง เกษตรกรชาวสวนบางส่วนก็ เร่งการผลิดอกของช่องลำไย โดยการใส่สารลำไย ที่เรียกชื่อว่า โปรแตสเซี่ยมคลอเรต เป็นสารเร่งการออกชิ่ดอก สารชนิดนำเข้ามาจาก ประเทศจี ที่เขาใช้ในการบรรจุ บ๊องไฟ กระสุนปืนต่างต่าง มีความแรงในการเร่งการผลิดอกออกช่อลำไย เกษตรกร ชาวสวนลำไย บางราย นำคำนวณอายุลำไยว่า ๓ ปี ฬส่ประมาณ ๐.๑ กก. หากมากกว่านี้ ก็เพิ่ม การเร่งการออกดอก แต่ต้องรดน้ำใส่ปุ่ย พ่นยาฆ่าแมลงตลอด เพราะเป็นการบังคับให้ลำไยออกช่อ เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต ตั้งแต่ สารเร่ง ค่านำมันสูบน้ำ หรือ ค่ากระแสไฟฟ้า กรณีมีแหล่งน้ำที่สูบได้ ส่วน ลำไยที่ออกตามฤดูกาล จะเป็น ปี ข้ามปี เพื่อการบำรุงต้นตัวเอง การดูแลก็ปรกติ ให้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยวัชพืช ยาฆ่าแมลง ไม่ต้องฉีดเพราะมันผลิช่อดอกเยอะ
ผลผลิตลำไยทั้ง ๘ จังหวัดทางภาคเหนือ หรือล้านนา ปีนี้ ประมาณ ๔๐-๕๐ % นำว่าเข้าสู่ท้องตลาดน้อย ปีนี้ไม่มีการ มัดเป็นพวงเพื่อนำไปขาย เกษตรกรชาวสวนลำไย นิยมเก็บเกี่ยวเป็นเมล็ดแล้วบรรจุกระสอบ นำไปส่ง ที่จุดรับซื้อ เพื่อนำเข้าสู่เครื่องร่อน ปีนี้ไม่ค่อยมี พ่อค้ารายย่อย แต่มีจุดรับซื้อเยอะมาก พ่อค่ารายย่อย ปีนี้มีตั้งแต่นักธุรกิจ นักการเมืองท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง ส่วนใหญ่นำเข้าสู่โรงงานอบแห้ง
จุดรับซื้อเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ -๒๔.๐๐ น. และต่อจากนั้นจะมีรถยนต์บรรทุกรับจ้างนำส่งโรงงานอบลำไยแห้ง มีทั้งรถยนต์บรรทุกที่ โรงงานว่าจ้างเอง หรือว่า พ่อค้ารายย่อย จัดจ้างส่งโรงงานอบแห้ง
ราคาลำไย ณ วันนี้ เกรดใหญ่สุด ( AA) ราคา ๓๕ บาท ใหญ่รองลงมา (A) ราคา ๒๔ บาท เกรดรอง (B) ๑๓ บาท รองสุด (C) ราคา ๓ บาท
สิ่งที่น่าสังเกตุ
๑.ราคา แตกต่าง กัน เป็น ๑๐ บาทกว่า ทำไมเป็นเช่นนี้ เพราะกลไกราคาลำไยถูกกลไกพ่อค้าควบคุม ระบบสหกรณ์การเกษตร พึ่งพาไม่ได้ ต้องให้พ่อค้าคนกลางมากำหนดราคาจาก เกษตรกรชาวสวนลำไย
๒.ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ค่าสารเร่งลำไย ค่า ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรงงานตั้งแต่เตรียมต้นลำไย การใส่ราดสารเคมี การบำรุงรักษา การเก็บเดกี่ยว การขนส่ง อันนรี้ยังไม่รวมค่าแรงงานเจ้าของลำไยที่ทำงานอีก
ทางออก
๑.กลไกภาครัฐ ต้องเข้มแข็งพอในการบริการประชาชน การหาจุดจำหน่าย การเชื่อมร้อยการตลาด การแปรรูปสินค้า
๒.ระบบสหกรณ์ ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ส่งต่อการขายระบบสหกรณ์ต่อสหกรณ์
๓.ระบบการตลาด ระบบการตลาดในเมืองไทยต้องตอบสนองต่อ พืชผลการเกษตร ของไทย ร้านใหญ่ ๆในเมืองไทยต้องทำสัญญากับสหกรณ์การเกษตร เพื่อระบาย สินค้าทางการเกษตร
๔.นโยบายแห่งรัฐ การควบคุมพื้นที่การเกษตร การควบคุมสารเคมี การควบคุมการเอารัดเอาเปรียบ เกษตรกร