เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในการประชุม คณะกรรมการสมัชชาสุขภาพจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 3/2556 ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อเสนอแนะข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นสมัชชาสุขภาพจังหวัดอุบลราชธานี 5 ประเด็น ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้มีการนำเสนอในที่ประชุมครั้งที่ 2 /2556 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 ประกอบด้วย ประเด็นเกษตรอินทรีย์ เด็กเยาวชนและครอบครัว การจัดการชขยะและสิ่งปฏิกูล การจัดการน้ำลำมูลน้อย และ การจัดการศึกษา โดยทีมวิชาการเฉพาะประเด็นได้มีการสรุป และนำเสนอประเด็นต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งดิฉันจะขอนำรายละเอียดของแต่ละประเด็นมานำเสนอ ดังนี้ ค่ะ เริ่มจากประเด็น เกษตรอินทรีย์ ที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ ความรุนแรง และความสำคัญของปัญหา ว่า ,ข้อมูลรายงานการสำรวจขององค์การอาหารและเกษตรแห่งชาติ หรือ FAO พบว่า ประเทศไทยมีเนื้อที่ทำการเกษตรมากเป็นอันยดับที่ 48 ของโลก ใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ใช้ยาฆ่าหญ้ามากเป็นอันดับ 4 ของโลก และจากการศึกษาของกรมวิชาการเกษตรพบว่าในสารฆ่าแมลง 100 กิโลกรัม ที่ฉีดพ่นออกไป มีเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น ที่ฉีดโดนแมลงและทำให้แมลงตาย ส่วนที่เหลือ 99 กิโลกรัม จะตกค้างอยู่ในดิน-สภาพแวดล้อม ซึ่งสารเหล่านี้จะตกค้างสะสมอยู่ในดิน สิ่งแวดล้อม และห่วงโซ่อาหารเป็นเวลานานหลายสิบปี ข้อมูลจาก สนง.เกษตรจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า อุบลราชธานี มีพื้นที่ทำการเกษตร จำนวน 5,849,799 ไร่ ปลูกพืชอินทรีย์ประมาณ 22,805 ไร่ คิดเป็น 0.39 % ขณะที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอุบลราชธานี รายงานข้อมูลว่า ในปี 2555 ได้ตรวจรับรองแปลงปลูกข้าว GAP ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จำนวน 204 แปลง หรือ 1,593 ไร่ คิดเป็น 0.03% และข้อมูลจากสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต 4 อุบลราชธานี รายงานว่า ในปี 2556 ได้ตรวจรับรองแปลงปลูกพืชไร่ พืชล้มลุก ไม้ผล และ GAP ใน จ.อุบลราชธานี จำนวน 348 แปลง หรือ 719 ไร่ คิดเป็น 0.01 % สรุปภาพรวมแล้ว พื้นที่การเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี 99.57 % ไม่ได้ทำเกษตรอินทรีย์ หรือ GAP และยัง มีข้อมูลด้านสุขภาพที่น่าสนใจว่า โรคมะเร็ง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยครองอันดับ 1 ติดต่อกัน 10 ปี ในปี 2552 เสียชีวิต 56,058 ราย เฉลี่ยวันละ 153 คน ชม.ละ 6 คน และจากฐานข้อมูลการเกิดการตายของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ปี 2553-2555 พบว่า มะเร็งทุกชนิดเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มะเร็งทีทำให้ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี เสียชีวิตมากที่สุด คือ มะเร็งตับ-ท่อน้ำดี อัตรการตายต่อแสนประชากร ตั้งแต่ปี 2549-2555 คือ 29.97 ,33.54 , 37.76 , 39.03 , 40.91 ,38.28 และ 40.94 ตามลำดับ รองลงมาคือ มะเร็งปอด ซึ่งมะเร็งดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี ด้วย ทั้งนี้ จ.อุบลราชธานี มีภาคีเครือข่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตร และสื่อมวลชนจิตอาสา ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาให้อุบลราชธานีเป็นจังหวัดเกษตรอินทรีย์ มีศูนย์เกษตรอินทรีย์ ที่ ม.อุบลราชธานี เพื่อเป็นกลไกในการเชื่อมโยงทุกภาคีให้มาทำงานร่วมกัน เกิดตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ มีแหล่งซื้อและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างเป็นธรรม พร้อมทั้งร่วมกันสร้างแบรนด์ “อุบล-ราชธานีแห่งเกษตรอินทรีย์” ขึ้นในอนาคต ....

คุณผู้ฟังคะ นี่ก็คือ รายละเอียดคร่าวๆ สำหรับการขับเคลื่อนประเด็นเกษตรอินทรีย์ของสมัชชาสุขภาพจังหวัดอุบลราชธานี ค่ะ.... สัปดาห์หน้า ดิฉันมีรายละเอียดประเด็น ด้านเด็กเยาวชนและครอบครัว มาเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมติดตามนะคะ

พบกันใหม่สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผสข.สุขภาวะภาคอีสาน สานใจ สานพลัง รายงานจาก จ.อุบลราชธานี ค่ะ