รายงานข่าวสุขภาวะ ตอน : EUจับมือ ม.อุบลฯ จัดโครงการพัฒนาเกษตรอินทรีย์

วันนี้มีรายละเอียดโครงการเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรด้านเกษตรอินทรีย์ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของ จังหวัดอุบลราชธานี มาเล่าสู่กันฟังค่ะ

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมพิบูลมังสาหาร ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีการแถลงข่าวการเปิดตัว โครงการเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรด้านเกษตรอินทรีย์ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจัดโดย สหภาพยุโรป(EU) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม จังหวัดอุบลราชธานี

ผศ.ดร.อินทิรา ซาฮีร์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการเปิดเผยว่า โครงการเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรด้านเกษตรอินทรีย์ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของจังหวัดอุบลราชธานี โครงการนี้ ดำเนินการโดยคณะทำงานโครงการฯ ภายใต้การบริหารงานของ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ร่วมกับภาคีเครือข่าย เนื่องจากได้เล็งเห็นว่าปัจจุบันเกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของผู้ผลิต ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต ทำให้เกษตรกรต้องกดดันตนเองเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น เพื่อนำหักลบกับต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของเกษตรกรและประชากรโลก โครงการนี้ฯมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรให้หันมาทำเกษตรอินทรีย์ สร้างความปลอดภัย และความมั่นคงทางด้านอาหาร ตลอดจนช่วยลดปัจจัยเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การผลักดันให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิถีการทำนาจากนาเคมีเป็นนาอินทรีย์ เป้าหมาย 200 ครัวเรือน และภายในปี 2560 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า เกษตรกรต้องผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จำนวน 100 ครัวเรือน หรือ 50% การวิจัยพัฒนารูปแบบการทำนาอินทรีย์เพื่อปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยการผสมผสานความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น และข้อมูลจากงานวิจัย ดำเนินการให้มีสหกรณ์เพื่อการเกษตรอินทรีย์อย่างครบวงจร ทั้งการผลิต การแปรรูป การตลาด นอกจากนี่ยังมีประเด็นด้านการขยายผลการทำเกษตรอินทรีย์สู่เกษตรกรที่สนใจ เพื่อสนับสนุนนโยบายส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ การสร้างความรู้เกี่ยวกับผลดีของการทำเกษตรอินทรีย์ต่อบุคคล องค์กร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น โดยมีพื้นที่การทำงานในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรบ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล ,กลุ่มเกษตรกรบ้านทองหลาง ตำบลท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม ,กลุ่มเกษตรกรบ้านหนองมัง ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรง, กลุ่มเกษตรกรบ้านหนองไฮ ตำบลอ่างศิลา อำเภอพิบูลมังสาหาร, กลุ่มเกษตรกรบ้านคำสร้างไชย-บ้านบัวเทิง อำเภอสว่างวีรวงศ์, กลุ่มเกษตรกรตำบลม่วงใหญ่ –ตำบลสำโรง อำเภอโพธิ์ไทร , กลุ่มเกษตรกรบ้านคูเมือง ตำบลคูเมือง อำภเอวารินชำราบ, กลุ่มเกษตรกรบ้านดงบัง-หนองบ่อ และกลุ่มเกษตรกรบ้านจานตะโนน ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยภายหลังการแถลงข่าว ช่วงบ่ายวันที่ 31สิงหาคม และ วันที่ 1 กันยายน 2556 ผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรพื้นที่ดำเนินโครงการฯ ด้วย

คุณผู้ฟังคะ และนี่ก็คือโครงการดีๆ ที่จะทำให้คนอุบลราชธานี มีความมั่นคงทางอาหาร และปลอดภัยจากสารพิษ สารเคมี ยาฆ่าหญ้า และสารกำจัดศัตรูพืช ค่ะ

พบกันใหม่สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผสข.สุขภาวะภาคอีสาน สานใจ สานพลัง รายงานจาก จ.อุบลราชธานี สวัสดีค่ะ