รายการเกาะติดสมัชชาโต๊ะข่าว เปิดประเด็น.ในตอนนี้ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องระหว่างวันที่ 19–25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อ 14 จังหวัดทั่วภาคใต้ในระดับที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะหาดใหญ่ ยะลา และปัตตานีที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

ประสบการณ์น้ำท่วมใหญ่จาก “ปัตตานี–ยะลา” เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

สองตัวแทนเครือข่ายสื่อสร้างสุขภาคใต้ “คุณยะห์ อาลี” และ “คุณปริศา” เดินทางจากจังหวัดปัตตานีเพื่อเข้าร่วมงาน ท่ามกลางวิกฤตการคมนาคมและสภาพอากาศที่แปรปรวน หลายเที่ยวบินและรถไฟถูกยกเลิกต่อเนื่อง ทำให้จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งเป็นเพียงเส้นทางเดียวที่ยังพอใช้งานได้ในขณะนั้น พื้นที่จังหวัดปัตตานีเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกว่า 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนจนทำให้แม่น้ำปัตตานีรับน้ำไม่ไหว อีกทั้งน้ำทะเลหนุนยิ่งทำให้การระบายน้ำช้าลง น้ำท่วมตัวเมืองสูงจนไม่สามารถสัญจรด้วยรถจักรยานยนต์ได้ และระบบขนส่งสินค้าหยุดชะงักเป็นวงกว้าง ในอำเภอยะรัง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากยะลาโดยตรง เกิดภาวะน้ำหลากสูงกว่า 2 เมตร ในบางจุด น้ำมาเร็วและลดเร็ว ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่ทันเตรียมตัว เครื่องใช้ไฟฟ้าและข้าวของได้รับความเสียหาย ส่วนการสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก สัญญาณโทรศัพท์ขาดหายเป็นช่วงๆ

การช่วยเหลือในพื้นที่: ความร่วมมือท่ามกลางวิกฤต

แม้น้ำจะท่วมอย่างกว้างขวาง แต่ชุมชนปัตตานีและยะรังได้รับการดูแลจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และทีมจิตอาสาอย่างใกล้ชิด รวมถึงเยาวชนในชุมชนที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งการจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ผู้ประสบภัย

หาดใหญ่และพื้นที่เสี่ยงสูง: ความเสียหายที่ยังประเมินไม่ได้

ข้อมูลจากเครือข่ายสื่อในพื้นที่รายงานว่าแม้น้ำในหาดใหญ่จะลดลงแล้ว แต่หลายจุดยังมีน้ำท่วมขัง และมีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก ทั้งผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่ติดเตียง

ความเสียหายร้ายแรงที่สุดคือ การสูญเสียชีวิต ซึ่งยังไม่มีตัวเลขยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ข้อมูลจากภาคสนามระบุว่าอาจมีผู้เสียชีวิตหลักหลายร้อยราย โดยเฉพาะช่วงวันที่มีการตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่หาดใหญ่ต่อเนื่อง 3 วัน ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยวิกฤติที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตเป็นจำนวนมาก

ชุมชนในเขตเมือง โดยเฉพาะ “เขต 8” ซึ่งเป็นพื้นที่หนาแน่นและมีสภาพชุมชนแออัด พบปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ประสบภัยและทีมอาสา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปประสานสถานการณ์ ทั้งนี้เครือข่ายสื่อสร้างสุขเน้นย้ำการสื่อสารที่ถูกต้อง เพื่อลดความเข้าใจผิดและไม่ให้กระทบชื่อเสียงของประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

บทบาทการสื่อสารในวิกฤต

คุณยะห์ ในฐานะผู้จัดรายการวิทยุภาษามลายู เปิดเผยว่าตลอดช่วงวิกฤตได้ใช้สื่อวิทยุเพื่อแจ้งเตือน พูดคุยกับชาวบ้าน และรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือและลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

ด้านคุณปริศาได้ทำงานร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเครือข่ายเยาวชนจิตอาสาในอำเภอยะรัง สนับสนุนการช่วยเหลือเชิงพื้นที่และการประสานกับส่วนราชการ

ก้าวต่อไปหลังวิกฤต แม้ภาคใต้จะยังฟื้นตัวจากความเสียหายครั้งใหญ่ แต่พลังของประชาชนในพื้นที่ ความร่วมมือระหว่างชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ทำให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความพร้อมในการก้าวผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้

งานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 จึงเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยส่งต่อเสียงจากผู้ประสบภัยจริง เพื่อให้สังคมรับรู้ เข้าใจ และร่วมกันพัฒนาแนวทางเฝ้าระวัง–เตรียมพร้อมต่อภัยพิบัติในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น