จากสถานการณ์โลกที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและภาวะวิกฤตที่ทับซ้อนกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ"สุขภาวะ" (Well-being) ของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้เกิดแนวคิดในการสร้างกรอบนโยบายและระบบบริหารจัดการเพื่อสุขภาวะในวิกฤตช้อนวิกฤต ที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น

ทำไมถึงมาพัฒนาประเด็นนี้ 

นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขฉุกเฉิน และคณะทำงานพัฒนาประเด็นระบบบริหารจัดการ เพื่อสุขภาวะในวิกฤตซ้อนวิกฤต กล่าวว่า ในปี 2568 นี้มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยพิบัติ ตึกถล่ม แผ่นดินไหว รวมถึงเรื่องฝุ่นควัน และน้ำท่วมแบบไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน แต่ในอีกด้านหนึ่งจะเห็นว่ามีผลกระทบจากมิติอื่นแทรกอยู่ในแต่ละวิกฤตด้วย เช่น ด้านสุขภาพ ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม สแกมเมอร์ โดยบริบทแวดล้อมเหล่านี้ทำให้เราเจอวิกฤตที่เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งการที่เราจัดการแค่ใดเรื่องนึงมันไม่สามารถแก้ปัญหาในนั้นได้หมด หรือตอบสนองได้ไม่ดีเท่าที่ควร 

หัวใจของความสำเร็จ

ทางด้าน รศ.ดร.ทัศนีย์ ศิลาวรรณ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะกำงานพัฒนาประเด็นระบบบริหารจัดการเพื่อสุขภาวะในวิกฤตซ้อนวิกฤต กล่าวว่า เราพยายามทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นในระดับพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน เราจะเขียนในมติสมัชชาไว้ค่อนข้างชัดเจน

“ส่วนระดับส่วนกลางเราคิดว่าปัญหาอยู่ที่การไม่บูรณาการ และการประสานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด แต่เรื่องวิกฤตจะไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ เพราะไม่สามารถทำได้ด้วยคนเดียว ต้องอาศัยพลังการร่วมมือกันอย่างสูง” รศ.ดร.ทัศนีย์ กล่าว

ระเบียบวาระระบบบริหารจัดการเพื่อสุขภาวะในวิกฤตช้อนวิกฤต เป็น 1 ในประเด็นวาระหลักของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 เศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างสุขภาวะไทยยั่งยืน ผู้ที่สนใจระเบียบวาระนี้สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง https://www.nationalhealth.or.th/ และ https://healthstation.in.th/

สำหรับ Healthstation Talk EP.42 จะนำเสนอเกี่ยวกับตลาดนัดนโยบาย ในงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 โปรดติดตามได้ในเร็วๆ นี้