“วีระวัฒน์”จี้จุดบอดปราบบุหรี่ไฟฟ้า ผปค.ไม่เปิดใจรับความจริง เผยผลลัพธ์ ร.ร.บ้านพิณโทยอดลดฮวบ
เมื่อคราวการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำร่างมาตรการโรงเรียนและชุมชน ป้องกันบุหรี่ไฟฟ้าในชุมชน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ณ โรงเรียนบ้านพิณโท บ้านเทพา ต.เขื่องใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ 10 (กขป.10)ร่วมกับภาคีเครือข่าย
ร.ต.ต.ดร.วีระวัฒน์ พิณโท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพิณโท ในฐานะประธานที่ประชุม กล่าวเปิดใจว่าปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่โรงเรียน ชุมชน รุมแก้กันอยู่เป็นเพียงปลายทาง ปัญหาต้นทางคือตัวบทกฏหมายที่มีช่องโหว่และไม่สอดคล้องกับสภาพบริบทพื้นที่ กล่าวคือฝ่ายปราบปรามก็ปราบไป ฝ่ายขายก็ขายไป และเชื่อว่าธุรกิจสีเทากลุ่มนี้มีผลประโยชน์มหาศาลใช้เงินเปิดทางนำเข้าสินค้ากลุ่มภัยสังคมที่ลักลอบเข้ามาหลายช่องทาง หนึ่งในนั้นคือด่านศุลกากร พร้อมยกกรณีเมื่อครั้งที่ตนรับราชการตำรวจตม.สนามบินดอนเมือง ได้พบเห็นช่องทางทำมาหากินของแกงค์กลุ่มทุนจีนสีเทาที่นำเข้าสินค้าผิดกฎหมายลักลอบเข้าเมืองผ่านด่านศุลกากรทำกันเป็นขบวนการโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศุลกากรนอกรีตให้ความร่วมมือผ่านช่องทางพิเศษแลกกับผลประโยชน์มหาศาล รวมถึงคนต่างชาติลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมายโดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนสีเทาใช้เงินเบิกทาง เมื่อสภาพบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ก็ยากที่จะตัดไฟแต่ต้นลม เช่นเดียวกับบุหรี่ไฟฟ้าที่ทะลักเข้าประเทศ รวมถึงสื่อโซเชียลเนตเวิร์ค์ที่รัฐควบคุมไม่ได้เป็นช่องทางให้สินค้าอบายมุขเหล่านี้ระบาดหนักไม่จบสิ้น
ส่วนปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าของโรงเรียนบ้านพิณโท นับตั้งแต่ร่วมขับเคลื่อนโครงการกับกขป.10 ปัญหาได้ทุเลาเบาบางไปมาก บทพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดคือ เทอมแรกของปีการศึกษา2568 นี้จับบุหรี่ไฟฟ้าได้เพียง 2 ชิ้น เทียบกับเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ร่วมโครงการมีเป็นร้อย ซึ่งวันนี้โรงเรียนยังคงใช้มาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวัง ยังคงยืนยันในหลักการเปิดบ้านให้สังคมตรวจสอบและช่วยกันกวาดบ้านให้สะอาดเพราะตนตระหนักว่าการปิดบังข้อมูลเพียงเพื่อรักษาภาพลักษณ์องค์กรไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดเลย รังแต่จะส่งผลให้ลูกศิษย์เสียอนาคต
พร้อมยกกรณีศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ลูกศิษย์เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีหมาดๆต้องมาจบชีวิตลงในวัยเพียง 26 ปี จากสาเหตุปอดติดเชื้ออันเกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ในตอนหนึ่งว่าครั้งตนไปบอกความจริงกับผู้ปกครองว่าลูกไปยุ่งกับยาเสพติดกลับถูกปฏิเสธความหวังดีกลายเป็นว่าถูกตำหนิหาว่าครูจะหาคุกมาให้สร้างความไม่พอใจความหวังดีกลับถูกมองว่าประสงค์ร้าย พาลขุ่นเคืองพาลูกมาลาออกจากโรงเรียนจะให้ไปเรียนกศน.ตนจึงฝากถามว่าขนาดอยู่ในรั้วโรงเรียนยังควบคุมไม่ได้เมื่อไปเป็นอิสระข้างนอกเสี่ยงที่เด็กจะเสียคนเสียอนาคตได้ง่าย ผอ.วีระวัฒน์ กล่าวในแบบฉบับครู พร้อมสำทับว่าสังคม-ผู้ปกครองต้องปรับทัศนคติใหม่สร้างวัฒนธรรมยอมรับความเป็นจริงเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงไม่งั้นประเทศชาติไปไม่รอด
ในส่วนขององค์กรผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ห่วงภาพพจน์โรงเรียนหรือที่ออกมาเปิดแผลให้สังคมรับรู้ ผอ.วีระวัฒน์ ระบุตนยืนยันมาตลอดว่าไม่ห่วงภาพแต่ห่วงอนาคตลูกศิษย์ที่เขาจะต้องเติบโตมีอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า และยินดีเปิดบ้านให้สังคมตรวจสอบเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาจึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมโครงการเป็นโรงเรียนนำร่องของกขป.10
ส่วนคำถามถึงความกังวลคณะทำงานของโรงเรียนที่มีการปรับเปลี่ยนจะขาดความต่อเนื่องเป็นอุปสรรคหรือไม่ ผอ.วีระวัฒน์ ตอบประเด็นนี้ว่าไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด แม้จะมีครูที่เป็นคณะทำงานที่สอบบรรจุรับราชการได้ลาออกไปแต่ไม่กังวลเพราะทางโรงเรียนวางระบบการทำงานเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว ใครเข้ามาก็ทำงานได้เลยเปรียบเหมือนรถเกียร์ออโต้ใครเข้ามาก็สตารท์วิ่งได้เลย ส่วนแกนนำนักเรียนเมื่อจบการศึกษา ม.6 เขาก็สร้างรุ่นน้องเตรียมสืบทอดงานรุ่นต่อรุนอยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง ผอ.โรงเรียนบ้านพิณโท กล่าวอย่างมั่นใจในที่สุด
อนึ่ง โรงเรียนบ้านพิณโท เป็นโรงเรียนเอกชน ภายใต้กำกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งโรงเรียนบ้านพิณโท ได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่องแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน ของกขป.10
(สมศักดิ์ รัฐเสรี : รายงาน)