การประชุมคณะทำงานสื่อสาร ภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2568 ณ ห้องประชุมสุชน 3 ชั้น 3 อาคารสุขภาพแห่งชาติ โดยมี นางธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะอเนก เป็นประธาน มีคณะทำงานเข้าร่วมประชุม ทั้งในที่ประชุมและผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสรุปและกำหนดทิศทางในการสื่อสาร และได้เรียนเชิญบุคลากรในวงการสื่อทั้งภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะทำงานและที่ปรึกษา เช่น นายสุรพันธ์ ปุสสเด็จ นายวิสุทธิ์ คม วัชร พงศ์ จาก ไทยพีบีเอส นางสาวประวีณ มัย บ่ายคล้อย จากไทยทีวีสี ช่อง 3 จากสถานศึกษา เช่น รองศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์พิจิตรา สุภ สวัสดิ์กุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์.นว ฤทธิ์ ฤทธิ์ โยธิน จากองค์กรอิสระ เช่น ด๊อกเตอร์.ดนัย หวังบุญชัย นายพชร พรรษ์ ประจวบลาภ เป็นต้น และมีเจ้าหน้าที่กลุ่มสารสื่อสาร สช.เป็นเลขานุการคณะทำงาน

นางธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะอเนก ประธานคณะทำงาน กล่าวว่า ภารกิจในการสื่อสารประชาสัมพันธ์นโยบายด้านสุขภาวะ องค์คาภยพเกี่ยวกับสุขภาวะ ที่สำนักงานสุขภาพแห่งชาติ มีภารกิจหลัก ก็คือกรสร้างการมีส่วนร่วม ที่สร้างประโยชน์ได้ โดยมีปัญญาเป็นพื้นฐาน หรือ 4 พี ก็ยังเป็นหลักการที่สำคัญอยู่ ที่จะดำเนินการ สิ่งทีคณะทำงานด้านสื่อสารดำเนินการที่ผ่านมา ก็นำประเด็นที่สำคัญ เช่น เรื่องธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา เรื่องโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เรืองบุหรี่ไฟฟ้า หรือสิทธิการตายดี ตามมาตรา 12 กับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย การใช้สื่อสมัยใหม่ เช่นโซเชี่ยลมีเดีย และอินฟลูเอนเซอร์ ทีมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นสุขภาพ หรือประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจ

ด้าน ดร.ดนัย หวังบุญชัย คณะทำงาน กล่าวว่า เราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการหนุนเสริมในด้านเทคนิคใหม่ๆ ที่มีการเรียกร้องการนำเครื่องมือ เอไอ (AI ) ในการพัฒนาสื่อและสร้างสรรค์ สามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสาร อย่างมีคุณภาพ มากขึ้น กขป.แต่ละเขต สามารถติดตามประเมินผลได้ ทั้งประเด็นในระดับพื้นที่และส่วนกลาง และประเด็นที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้

ในส่วนของ ร.ต.ต.สุขสัณห์ ภิชัย คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ได้เข้าร่วมเป็นคณะทำงานด้านสื่อสาร กล่าวเพิ่มเติม ว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นองค์กรใหญ่ ซึ่งตามกฎหมาย คณะกรรมการชุดนี้ จะมี นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน จำเป็นต้องมีกลุ่มบุคคลเข้าร่วม หรือเรียกว่ามีครบทั้ง 5 ตัวจี๊ด คือ มีนักยุทธศาสตร์ เพื่อให้การขับเคลื่อนมีกรอบวิสัยทัศน์และพันธกิจ ทิศทางในอนาคต จะต้องมีนักวิชาการ ที่จะช่วยในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล งานวิจัย มีหลักการที่ดี สร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือได้ จะต้องมีนักประสานที่ดี เพื่อให้เข้าใจเป้าหมาย และมีนักปฏิบัติการ หรือเรียกว่ามืออาชีพ ประการสำคัญต้องมีนักสื่อสาร ในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชน และสังคม หากเราได้กลุ่มคนดังกล่าวก็จะเกิดประสิทธิ์ภาพมากขึ้น