สช. ผนึกเครือข่ายสมัชชาฯ 19 จังหวัด ตีโจทย์ใหญ่ “ทีมคุณภาพ” พัฒนาระบบสุขภาพที่ยั่งยืนจากฐานราก
28 สิงหาคม 2568
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

สช. สรุปบทเรียนเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ 19 จังหวัดภาคกลาง หนุน “ทีมขับเคลื่อนคุณภาพ” สู่ระบบสุขภาพที่ยั่งยืน

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดประชุมสรุปบทเรียนภาคีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลาง 19 จังหวัด ระหว่างวันที่ 28–29 สิงหาคม 2568 ณ ห้อง Peridot ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ ถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมจากจังหวัดละ 3 คน รวมกว่า 60 คน พร้อมด้วยทีม สช. (ภาคกลาง) เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ขับเคลื่อนกลไกจังหวัดด้วยพลังภาคีและบทเรียนจริงจากพื้นที่

การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงแนวทางการขับเคลื่อนสมัชชาสุขภาพจังหวัดที่มีคุณภาพ พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงจากการดำเนินงานของแต่ละจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในด้านบทบาทของภาคีเครือข่าย การบูรณาการนโยบาย และกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่
     ตลอด 2 วันของการประชุม มีกิจกรรมเวิร์กช็อปหลากหลายรูปแบบ อาทิ

เวที “ฉันคือใครในสมัชชาจังหวัด” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในบทบาทของแต่ละคน

เวที “พวกเราสะท้อนอะไรได้ (จากกระบวนการสมัชชาฯ)” เพื่อถอดบทเรียนร่วมกัน

กิจกรรม Word Café ร่วมเสนอแนวคิด “จะทำให้สมัชชาจังหวัดทรงพลังและมีความหมายได้อย่างไร”

เวที “มองไปข้างหน้า” ร่วมกำหนดเป้าหมายของการขับเคลื่อนในระยะถัดไป

โดยได้รับเกียรติจาก นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมและกล่าวปิดสรุปทิศทางการดำเนินงาน

     เป้าหมายระยะต่อไป: พัฒนากลไกสมัชชาจังหวัดอย่างยั่งยืน

สช. เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละพื้นที่ และขับเคลื่อนกระบวนการสมัชชาสุขภาพให้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ บทเรียนและข้อเสนอแนะจากเวทีนี้ จะถูกรวบรวมเป็นฐานข้อมูลสำคัญเพื่อใช้วางแนวทางการสนับสนุนภาคีเครือข่ายในระยะถัดไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

     “สมัชชาสุขภาพจังหวัดต้องไม่ใช่เพียงเวทีพูดคุย แต่ต้องเป็นเวทีสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ด้วยพลังของคนในพื้นที่เอง”