ประธานคณะ กมธ.การสาธารณสุข รับข้อเสนอแนะในการปรับโครงสร้างภาษียาสูบและการจัดการบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง 

! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.


วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 13.50 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายทศพร เสรีรักษ์ ประธานคณะ กมธ.การสาธารณสุข รับยื่นหนังสือจาก ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะ เพื่อเสนอแนะในการปรับโครงสร้างภาษียาสูบและการจัดการบุหรี่ไฟฟ้าของกลางที่ยึดได้ 

ตามที่ คณะรัฐมนตรีได้รับข้อเสนอการปรับโครงสร้างยาสูบ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา การปรับภาษีสรรพสามิตยาสูบเป็นสองอัตราในปี 2560 ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน คือ บุหรี่ต่างประเทศลดราคาลงมาต่อสู้ในตลาดล่างทำให้รัฐจัดเก็บภาษียาสูบลดลงนับหมื่นล้านบาท จึงมีนักวิชาการบางท่านเสนอแนะให้จัดเก็บภาษีเป็นอัตราเดียวโดยลดลงร้อยละ 25 เพื่อเพิ่มยอดขายของการยาสูบแห่งประเทศไทย และทำให้การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กลับจะทำให้จำนวนผู้สูบเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ส่งผลต่อความเจ็บป่วยและภาระการรักษาพยาบาลตามมา จึงเสนอรัฐบาลให้มีการปรับภาษีเป็นอัตราเดียวเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเหมือนในอดีต และปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ซิกาแรตร้อยละ 40 จะช่วยเพิ่มรายรับให้ภาครัฐ และลดจำนวนบุหรี่ในท้องตลาด ทำให้ผู้สูบลดลง 


ดังนั้น ศูนย์วิจัยและการจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ สถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จึงขอเรียกร้องเป็นการเร่งด่วนต่อคณะ กมธ.การสาธารณสุข นำข้อเสนอแนะเข้าพิจารณาในที่ประชุมและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของรายได้ภาครัฐ และสามารถควบคุมอัตราการสูบบุหรี่ของประชาชน อันจะนำมาสู่สุขภาพที่ดีและลดภาระค่าใช้จ่ายจากการเจ็บป่วยของคนไทย ซึ่งสูงเป็น 4 เท่าของภาษีที่จัดเก็บได้ตามยุทธศาสตร์ของแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมยาสูบแห่งชาติ 

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลมีการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มข้นทำให้มีบุหรี่ไฟฟ้าของกลางถูกยึดเป็นจำนวนมากและยังมีการทำลาย เป็นเหตุให้เสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและบุคลากรที่ดูแลในแต่ละเดือนจำนวนสูง เป็นเหตุให้เกิดการลักลอบนำของกลางไปจำหน่ายกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง จึงขอเสนอให้คณะ กมธ. แสวงหาแนวทางให้กรมศุลกากรเร่งนำของกลางเหล่านี้ไปดำเนินการทำลายโดยเร็วเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า และประโยชน์ต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน

นายทศพร เสรีรักษ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า หากจะมีการปรับปรุงภาษีต้องมีการปรับปรุงในอัตราที่เหมาะสมเพื่อทำให้ประชาชนสูบบุหรี่น้อยลงและมีผลดีต่อสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็จะทำให้รัฐจัดเก็บภาษีได้มากขึ้นอีกด้วย ส่วนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่สามารถจับกุมได้จำนวนมากขึ้น ปัญหาเรื่องการทำลายเป็นปัญหาที่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากและไม่มีพื้นที่ในการจัดเก็บที่เหมาะสม คณะ กมธ.จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อนำไปพิจารณาและผลักดันไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการจัดการอย่างเหมาะสมต่อไป

https://www.facebook.com/share/p/1CX8EYVjys/?


 22 สิงหาคม 2568