กาญจนบุรี เปิดโครงการ “มินิธัญญารักษ์นอกสถานพยาบาล” ยกระดับการบำบัดผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่นำร่อง

! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

การเปิดโครงการ “มินิธัญญารักษ์นอกสถานพยาบาล” ที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 มีนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ นายธีรพจน์ ฟักน้อย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ศรีไพบูลย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งรัฐบาลได้ยกระดับเป็น วาระแห่งชาติ และขยายผลลงสู่ระดับจังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน และชุมชน โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือ “ป้องกัน-ปราบปราม-ฟื้นฟู” ให้ครบวงจร


ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (...) ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดรวมกว่า 1.3 ล้านคน โดยร้อยละ 80 เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติดสังเคราะห์ประเภทเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้าและไอซ์) ส่วนจังหวัดกาญจนบุรีเอง ถือเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเส้นทางลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ภาคกลาง สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี นับเป็น 1 ใน 8 จังหวัดนำร่อง ที่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาระบบการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดและผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติด ลดอัตราการส่งต่อไปโรงพยาบาล และเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการบำบัดอย่างเหมาะสมในพื้นที่


การแก้ปัญหาที่ผ่านมา มักเน้นการจับกุมและการปราบปราม แต่ผลลัพธ์คือ เรือนจำแออัด ผู้ต้องขังคดียาเสพติดสูงกว่า 70% ของผู้ต้องขังทั้งหมด ขณะที่การบำบัดรักษายังไม่ครอบคลุมและต่อเนื่องพอ ส่งผลให้ผู้เสพจำนวนไม่น้อยกลับเข้าสู่วงจรเดิม

จุดแข็งของ “มินิธัญญารักษ์” คือเข้าถึงง่ายขึ้น: ลดการส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลใหญ่ ทำให้ผู้เสพในชุมชนเข้าถึงการบำบัดได้โดยไม่ต้องเดินทางไกล รูปแบบยืดหยุ่น: ใช้แนวคิด “บำบัดใกล้บ้าน ฟื้นฟูใกล้ใจ” เชื่อมโยงกับผู้นำท้องถิ่น ครอบครัว และชุมชน และลดการตีตรา: การรักษาในชุมชนช่วยลดอคติที่สังคมมีต่อผู้เสพ เทียบกับการถูกส่งเข้า “ศูนย์บำบัดใหญ่”

โจทย์ที่ต้องจับตา การบำบัดนอกสถานพยาบาลต้องใช้ทีมแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา และอาสาสมัครชุมชนจำนวนมาก ปัญหาคือกำลังคนยังไม่เพียงพอ อีกทั้ง หากผู้เข้ารับการบำบัดกลับสู่สภาพแวดล้อมเดิมที่ยังมีเครือข่ายค้ายา โอกาสกลับไปเสพซ้ำยังสูง โครงการจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้นำท้องที่และครอบครัวเข้ามามีบทบาทจริง ไม่ใช่แค่เชิงสัญลักษณ์ และหากการสกัดกั้นยาเสพติดที่ชายแดนยังไม่เข้มแข็ง โครงการฟื้นฟูเพียงอย่างเดียวก็จะเป็นเพียงการแก้ “ปลายเหตุ”



มินิธัญญารักษ์นอกสถานพยาบาล” ที่กาญจนบุรีถือเป็น นวัตกรรมด้านการบำบัดในระดับพื้นที่ ที่ช่วยเปิดโอกาสใหม่ในการดูแลผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด แต่โครงการนี้ไม่อาจแก้ปัญหาได้ทั้งหมด หากไม่มีการเสริมด้วยมาตรการปราบปรามที่เข้มข้น การสร้างเครือข่ายครอบครัว–ชุมชน และการลงทุนด้านบุคลากรและงบประมาณอย่างจริงจัง

 15 สิงหาคม 2568