เมื่ออาหารเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ความปลอดภัย และสุขภาพ—โจทย์ใหญ่ที่ไทยต้องเผชิญ
ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตซ้อนทับ ทั้งเศรษฐกิจ สภาพภูมิอากาศ และโรคระบาด คำถามสำคัญคือ “ประชาชนจะยังมีอาหารที่เพียงพอและดีต่อสุขภาพหรือไม่?” คำถามนี้ไม่เพียงสะท้อนความห่วงกังวลด้านการบริโภคเท่านั้น แต่ยังโยงไปถึงระบบการผลิตอาหารทั้งห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ดร.เพ็ญ สุขมาก ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อธิบายว่า ระบบอาหารมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนที่เกี่ยวพัน ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร ความปลอดภัย และโภชนาการ ทั้งสามส่วนนี้ไม่อาจแยกจากกันได้ หากขาดส่วนหนึ่งย่อมกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คน
ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่าความมั่นคงทางอาหารหมายถึง การที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างเพียงพอ ทั้งในด้านปริมาณ ราคา และความต่อเนื่อง การผลิตอาหารจึงต้องไม่สะดุด แม้ในช่วงวิกฤต เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม หรือสถานการณ์โรคระบาด ตัวอย่างเช่น ช่วงโควิด-19 หลายประเทศประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ขณะที่ประเทศไทยยังคงรักษาความมั่นคงทางอาหารไว้ได้จากฐานการผลิตทางการเกษตร แต่ก็ต้องเร่งพัฒนาเรื่องการกระจายอาหารให้ทั่วถึงและลดความเหลื่อมล้ำ
ส่วนในเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร นั้นในปัจจุบัน ประชาชนไม่ได้กังวลเพียงว่ามีอาหารเพียงพอหรือไม่ แต่ยังห่วงว่าอาหารนั้น “ปลอดภัยจริงหรือไม่” ประเด็นนี้เกี่ยวพันกับการใช้สารเคมีในเกษตร การปนเปื้อนเชื้อโรคในห่วงโซ่การผลิต และการแปรรูปที่ไม่ได้มาตรฐาน แนวคิด “farm to table” หรือจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร จึงกลายเป็นคำสำคัญ ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) ต้องถูกนำมาใช้เพื่อให้ผู้บริโภครู้ที่มาของอาหาร ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตเองก็ต้องได้รับความรู้และมาตรการสนับสนุน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่วางขายในตลาด “ไม่เพียงอร่อย แต่ปลอดภัยต่อสุขภาพ”
สำหรับในด้านโภชนาการ ดร.เพ็ญระบุว่า“อาหารมี แต่กินไม่ถูก” คือปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย แม้เราจะมีอาหารเพียงพอ แต่การบริโภคที่ไม่สมดุลกลับทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เด็กบางกลุ่มยังเผชิญภาวะขาดสารอาหาร ขณะที่ผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยเผชิญภาวะโรคอ้วน เบาหวาน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) จากการบริโภคเกิน ดร.เพ็ญ เน้นว่า ระบบอาหารต้องถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับโภชนาการที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่การผลิตเพื่ออิ่ม แต่เพื่อสร้างคุณค่าต่อสุขภาพเช่นการรณรงค์ให้คนไทยบริโภคผักผลไม้มากขึ้น ลดอาหารแปรรูป และหันกลับมาเห็นคุณค่าของอาหารพื้นถิ่นที่มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการสูง
ทั้งนี้ความมั่นคงทางอาหาร ความปลอดภัย และโภชนาการ ล้วนเชื่อมโยงเป็นห่วงโซ่เดียวกัน หากหนึ่งส่วนสั่นคลอน อีกสองส่วนย่อมได้รับผลกระทบ ระบบอาหารจึงไม่ใช่เพียงเรื่องการเกษตรหรือการค้า แต่คือ “รากฐานความมั่นคงของชาติ” การสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนคือภารกิจที่สังคมต้องร่วมกันผลักดัน เพราะในที่สุดแล้ว “อาหารบนโต๊ะทุกมื้อ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องยังชีพ แต่คือคำตอบของอนาคตสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนทั้งประเทศ”