ก้าวสำคัญใช้ทางธรรม นำทางโลก ผ่านแผนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ
29 กรกฎาคม 2568
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.
ภายหลังฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม และคณะกรรมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ มีดำริในการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการสานพลังจัดกระบวนการพัฒนาแผนฯ ได้ดำเนินการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนฯมาเป็นลำดับ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 ก.ค.68 ณ ห้องประชุม BB203 โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. โดยการสนับสนุนจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
พระธรรมวชิโรดม,รศ.ดร. (พล อาภากโร) เจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม ในฐานะประธานอนุกรรมการยุทธศาสตร์ ติดตาม และประเมินผล ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เป็นประธานดำเนินการประชุมรับฟังความคิดเห็น และสรุปแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ร่วมกับคณะสงฆ์ และ 18 หน่วยงาน ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยพระเดชพระคุณได้ให้แนวคิดต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า “ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ มีความสำคัญมากกว่าเพียงการดูแลอุปัฏฐากสุขภาพกายพระสงฆ์ซึ่งเป็นแค่หนึ่งหมวดเท่านั้น แต่มีความสำคัญมากกว่าเมื่อพระสงฆ์มีสุขภาพที่ดี สามารถปฏิบัติศาสนกิจอันเป็นประโยชน์ต่อโลก ชุมชน และสังคมด้วย”
นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มอบหมายนายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เข้าร่วมในกระบวนการแลกเปลี่ยนและให้ข้อเสนอแนะในกระบวนการพัฒนาแผนฯ ดังกล่าว โดยสช. มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือคณะสงฆ์ หน่วยงาน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันดำเนินการร่วมกับวิทยากร คือ ดร.วัชรวิชญ์ กีรติดุสิตโรจน์ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในกระบวนการจัดทำแผนฯให้กับหน่วยงาน เครือข่าย ต่าง ๆ ทั้งนี้ รองเลขาธิการ สช. ได้ให้ความเห็นว่า การทำแผนครั้งนี้มีความสำคัญทั้งทางโลก และทางธรรม และมีความท้าทายว่า ไม่ใช่เพียงการรวบรวมแผนของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่ควรเป็นการบูรณาการและสานพลังให้เกิดประโยชน์สูงสุดและก้าวข้ามการทำงานเป็นรายโครงการ หรือเป็นเพียงการทำงานของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และมุ่งสู่ประโยชน์ของพระสงฆ์ สามเณร และประชาชน
การประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วยคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมให้ความเห็นจำนวนมาก เช่น พระเดชพระคุณพระศรีสมโพธิ,ดร.(วรัญญู วรญฺญู) ผู้แทนฝ่ายศาสนศึกษาของมหาเถรสมาคม, พระครูอมรชัยคุณ (หลวงตาแชร์), พระมหาสุเทพ สุทธิญาโณ เครือข่ายพระคิลานธรรม,พระอาจารย์วิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธ,ผส.ดร., พระอาจารย์ภูวัต ภูริวฑฺฒโน,
ดร.วิสุทธิ บุญญะโสภิต กรรมการสุขภาพแห่งชาติ, ผศ.ดร.วีระศักดิ์ พุทธาศรี โดยผลจากการร่วมดำเนินงานทำให้เกิดร่างแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ที่เกิดจากกระบวนการระดมความเห็น การรวบรวม และวิเคราะห์ โดยมีกรอบแผน 5 ด้าน ได้แก่ แผนปฏิบัติการที่ 1 การเสริมสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพอย่างเท่าทัน ให้พระสงฆ์ดูแลสุขภาพตนเองตามหลักพระธรรมวินัย และควบคุมป้องกันโรคอย่างเท่าทัน แผนปฏิบัติการที่ 2 การเสริมสร้างสังคมสุขภาวะ และพัฒนานิเวศสุขภาพวัดที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนบนฐานการมีส่วนร่วม แผนปฏิบัติการที่ 3 การดูแลสุขภาพ การฟื้นฟูสุขภาพสงฆ์อาพาธแบบองค์รวม และการมีส่วนร่วมของชุมชน ท้องถิ่น และภาคีทุกภาคส่วน แผนปฏิบัติการที่ 4 การพัฒนาบุคลากร การจัดการความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ แผนปฏิบัติการที่ 5 การบริหารธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ และการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติทั่วทั้งประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน โดยจะมีการปรับปรุงและพัฒนารายละเอียดตามความเห็นต่อไป
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เข้าร่วมในกระบวนการจัดทำแผนฯ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานที่ร่วมปวารณาขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ณ พระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลรามราชวรมหาวิหารในช่วงต้นปี 2567 เช่น กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร กรมการศาสนา กรมการแพทย์ กรมอนามัย ฯลฯ โดยการดำเนินงานครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และเครือข่ายอาสาคิลานธรรมด้วย