พิธีรับเอกสารจดหมายเหตุและเครื่องมือเก่า และ นำสื่อมวลชน ชม หอประวัติศาสตร์สุขภาพ


สธ.เปิดหอประวัติศาสตร์สุขภาพ รวบรวมตำรายา เครื่องมือแพทย์ไทย
ที่อาคารสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวภายหลังเป็นประธานรับมอบเอกสารจดหมายเหตุ เครื่องมือและวัตถุจดหมายเหตุ จากกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส) ในพิธีเปิด “ หอประวัติศาสตร์สุขภาพ” นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดตั้งหอประวัติศาสตร์สุขภาพอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในจะรวบรวมประวัติศาสตร์การทำงานด้านสุขภาพ ตั้งแต่อดีต ทั้งรูปภาพ เครื่องมือเครื่องใช้สำคัญในการทำงาน เครื่องมือแพทย์ รถ และภาพยนตร์การออกหน่วยบริการของแพทย์ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นรากเหง้าของการดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งนี้ หอประวัติศาสตร์สุขภาพเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหอจดหมายเหตุ และ พิพิธภัณฑ์สุขภาพไทย( หพสท.) ซึ่งก่อตั้งโดย สธ. และ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) ซึ่งรวบรวมเอกสารด้านสุขภาพที่เก่าแก่มากกว่า100 ปี เวลาได้อย่างแน่นชัด เพราะเป็นตำราที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยเอกสารสำคัญคือ เอกสารส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญด้านสุขภาพกว่าแสนชิ้น อาทิ เสมพริ้งพวงแก้ว , พ่อทองอ่อน สิทธิไกรพงษ์ ผู้เป็นกำลังหลักในการฟื้นฟูการแพทย์แผนไทย เป็นต้น อย่างตำรายาของพ่อทองอ่อน ก็มีผู้สนใจ มากค้นคว้าข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาและวิจัยเป็นจำนวนมากมีตัวยาอะไร บ้าง เนื่องจากมีตำราหลายขนานที่เชื่อว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ “ นพ.ณรงค์ กล่าว
ปลัด สธ. กล่าวอีกว่า เป้าหมายงานอีกอย่าง คือการแสวหาและอนุรักษ์เอกสาร โดยการกำหนดเป้าหมายในกาเลือกสรรเอกสารวัตถุจดหมายเหตุที่ควรแสงหามาเก็บไว้ และต้องทำงานให้ทันกับเวลาก่อนที่จะสูญหายไป เช่น การเก็บเอกสารเกี่ยวกับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค รวมทั้งเอกสาร การณรงค์เรื่องการควบคุมการบริโภคยาสูบ และสุรา เอกสารเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและสร้างความรู้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการ หพสท. กล่าวว่า หอประวัติศาสตร์สุขภาพมีพื้นที่เกือบ 400 ตารางเมตร เป็นแหล่ง เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ การแพทย์การสาธารณสุข หรือ สุขภาพของสังคมไทย ในเชิงประสบการณ์ ซึ่งภายในหอประวัติศาสตร์มีการจัดแสดงวัตถุ จดหมายตุ ภาพ เอกสาร และข้าวของที่มีความเป็นมาหลากหลาย พร้อมแล่งอ้างอิงที่ ชัดเจนเชื่อถือได้ โดยนิทรรศการทั้งหมดได้แบ่งพื้นที่เป็น 9 โซน หลักๆ ภายใต้บรรยากาศของการเดินชมตามอัธยาศัย อาทิ โชนสุขภาวะทางจิตวิญญาณ โซนการแพทย์ในสถานการณ์วิกฤติ และโซนความตาย และวาระสุดท้ายของชีวิต เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมและเรียนรู้ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8:30-16:30 น. บริเวณ ชั้น 1 อาคารสุขภาพแห่งชาติ โดยไม่เสียค่าบริการ ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ www.nham.or.th