Sub Navigation Links

webmaster's News

ไทยป่วยอัลไซเมอร์พุ่งรักษาไม่หาย



ไทยป่วยอัลไซเมอร์พุ่งรักษาไม่หาย



แพทย์เผยพบผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในไทยเพิ่มมากขึ้น  ชี้ยังไม่สามารถรักษาหายขาดได้ ทำได้เพียงชะลอความเสื่อมของเซลล์สมอง แนะควรป้องกันตั้งแต่วัยหนุ่มสาว

มื่อวันที่ 8 ก.ย. นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ระบบประสาท ระบาดวิทยา ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์เกิดจากการเสื่อมสภาพของเซลล์สมองซึ่งเป็นไปตามอายุที่มากขึ้น ยังมีอาการร่วมของโรคหลอดเลือดสมองแตก ตีบ ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่ดี คนที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดสมองจะมีความเสี่ยง หรือโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน น้ำหนักตัวเกิน อ้วน สูบบุหรี่ พบมากในผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไปร้อยละ 6-8 และโรคจะรุนแรงเพิ่มขึ้นสองเท่าในทุก ๆ 5 ปี อย่างไรก็ตามในกลุ่มผู้อายุน้อยกว่า 65 ปี ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ โดยอาจเกิดจากอุบัติเหตุที่สมอง เนื้องอกที่สมอง เป็นต้น ปัจจุบันพบมากขึ้นเพราะประเทศไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น

นพ.วีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า คนที่เป็น โรคอัลไซเมอร์ส่วนใหญ่อาการเริ่มแรกจะพบว่าความจำระยะสั้นไม่ค่อยดี หรือพูดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ถามซ้ำ ๆ ความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ลดลง นอกจากนี้การเป็นโรคเมื่ออายุมากอาจทำให้มีปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ตามมา เช่น ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย หวาดระแวง เป็นต้น หากพบอาการเหล่านี้ขอให้รีบมาพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นระยะเริ่มแรกของสมองเสื่อม ซึ่งพบได้ 70 ใน 100 คน

ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์สมองเท่านั้น อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยได้เร็วก็เป็นเรื่องดีเพราะใน 5-10 คน ของคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมมีบางภาวะที่แก้ไขได้ เช่น โพรงสมองคั่งน้ำ มีน้ำในสมองรักษาด้วยการผ่าตัด หรือเกิดจากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ขาดสารอาหารบางตัว ติดเชื้อในสมอง สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้

นพ.วีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันต้องทำตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ถ้ามาทำตอนอายุมากแล้วก็อาจจะไม่ค่อยได้ผล โดยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง ออกกำลังกายชนิดแอโรบิก เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ประมาณ 40 นาทีต่อครั้ง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งจากการวัดสมรรถภาพของสมองในผู้ที่ออกกำลังกายเป็นเวลา 6-12 เดือนพบว่าดีขึ้นกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย และหันมารับประทานผัก ผลไม้ เนื้อปลา เช่น ปลาแซลมอน ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ให้มากขึ้น เพื่อบำรุงสมอง นอกจากนี้ให้ทำกิจกรรมกระตุ้นความจำคิดอ่าน เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพยายามไม่ให้เศร้า เลี่ยงสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้ง่วงซึม ระวังอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ เพราะอาจจะทำให้เลือดออกในสมอง


ที่มา : เดลินิวส์
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต



Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  9th Sep 15

จำนวนผู้ชม:  34824

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   ข่าวสารน่ารู้

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง