Sub Navigation Links

webmaster's News

กรมอนามัย เตือนตุนน้ำดื่ม น้ำใช้ เลี่ยงขวดพลาสติกใช้ซ้ำ หวั่นเสี่ยงเชื้อแบคทีเรีย



กรมอนามัย เตือนตุนน้ำดื่ม น้ำใช้  เลี่ยงขวดพลาสติกใช้ซ้ำ หวั่นเสี่ยงเชื้อแบคทีเรีย



กรม อนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพประชาชน เตือนเลี่ยงนำขวดน้ำพลาสติกมาใช้ซ้ำในช่วงขาดแคลนน้ำในบางพื้นที่ เสี่ยงอันตรายจากการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย แนะหากจำเป็นต้องใช้ควรมีการทำความสะอาดที่ถูกวิธี และหมั่นสังเกตลักษณะของขวด หากมีรอยชำรุด รั่ว แตกร้าว บุบ ไม่ควรนำมาใช้ พร้อมเน้นย้ำให้ดื่มน้ำที่สะอาดเท่านั้น

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดี กรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค โดยนำขวดพลาสติกเปล่าที่ผ่านการใช้งานแล้วมาใส่น้ำไว้สำหรับดื่มหรือใช้ใน ครัวเรือนนั้น บางครั้งไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดที่ถูกวิธี โดยเฉพาะบริเวณ ปากขวดและฝาขวดที่เกิดจากการใช้ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้ขวดน้ำกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่มักพบมากในน้ำบรรจุขวด พลาสติกที่มีการเติมน้ำซ้ำๆ กันหลายครั้ง ซึ่งผลจากการเก็บน้ำดื่มบรรจุขวดโดยกรมอนามัย ปี 2557 เพื่อตรวจสอบ จำนวน 500 ตัวอย่าง พบมีการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรีย จำนวน 370 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 74 ประชาชนจึงควรให้ความสำคัญโดยเฉพาะสารเคมีที่เป็นอันตรายจากพลาสติก เพราะการขัดถูเพื่อล้างทำความสะอาดขวดน้ำ อาจทำให้เกิดรอยขูดขีดหรือการบุบชำรุดของขวดที่เกิดจากการนำมาใช้ซ้ำ หรือหากขวดน้ำตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความร้อนหรือได้รับแสงแดดอาจทำให้สาร เคมีจาก ขวดพลาสติกปนเปื้อนลงในน้ำที่อยู่ในขวดได้

นพ.พร เทพ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่จำเป็นต้องนำขวดพลาสติกเก่ามาใช้ก็ควรทำความสะอาด ให้ทั่วถึงและต้องสังเกตลักษณะของขวด หากมีรอยชำรุด รั่ว แตกร้าว บุบ ก็ไม่ควรนำมาใช้ หรือหากเป็นขวดที่มีการปนเปื้อนดินก็ควรหลีกเลี่ยงในการนำมาใช้ซ้ำเช่นกัน  และสำหรับพื้นที่ทุรกันดารที่ขาดแคลนน้ำสะอาด ก่อนนำมาดื่มควรต้มให้เดือดอย่างน้อย 5 นาที เก็บในภาชนะที่สะอาด มีฝาปิดมิดชิด ส่วนการนำน้ำจากแม้น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำผิวดินแหล่งอื่นๆ มาใช้โดยตรง ควรปรับปรุงคุณภาพน้ำและฆ่าเชื้อโรคก่อน ด้วยการแกว่งสารส้มชนิดก้อนในน้ำและให้สังเกตตะกอนในน้ำ หากเริ่มจับตัวให้นำสารส้มออกตั้งทิ้งไว้จนตกตะกอน แล้วนำเฉพาะน้ำใสมาฆ่า เชื้อโรคโดยใช้หยดทิพย์ อ.32 ของกรมอนามัย ซึ่งเป็นสารละลายคลอรีนชนิดเข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วน 1 หยดต่อน้ำ 1 ลิตร หรือเติมผงปูนคลอรีนตามปริมาณที่กำหนด จากนั้นปล่อยให้มีระยะเวลาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อย 30 นาที ก่อนนำไปใช้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในน้ำ

“ที่ สำคัญควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนตักน้ำใส่ภาชนะบรรจุ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ จากมือที่ไม่สะอาด ทำให้ประชาชนได้บริโภคน้ำที่สะอาด ปลอดภัย เป็นการป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากน้ำเป็นสื่อ ซึ่งจากข้อมูลรายงาน การเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 12 กรกฎาคม 2558 พบผูปวยโรคอุจจาระร่วง 571,183 ราย เสียชีวิต 6 ราย ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ 68,524 ราย ยังไม่พบผู้เสียชีวิต” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  24th Jul 15

จำนวนผู้ชม:  34971

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   ข่าวสารน่ารู้

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง