Sub Navigation Links

webmaster's News

นักสานพลัง แห่งประเทศไทย



นักสานพลัง แห่งประเทศไทย



นักสานพลัง แห่งประเทศไทย

ท่ามกลางบรรยากาศของมวลมิตร ผู้มีจิตสาธารณะที่เข้าร่วมกระบวนการพัฒนาศักยภาพแบบยกระดับผลงาน สู่การสานและสร้าง นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ในชื่อหลักสูตรที่ว่า โปรแกรมพัฒนาศักยภาพนักสานพลังขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม หรือ “นนส.” ผมได้พบความรู้สึกบางอย่างที่อยากเล่าสู่กันฟัง ผ่านช่องทางสาธารณะเพื่อจารึกห้วงคำนึงที่เกิดขึ้นในวินาทีนั้น
 นนส.คือใคร

ในช่วง ปี 2555 – 2558 มีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า นนส. หรือใช้คำขยายที่ฟังแล้วก็ยังไม่ทำให้เข้าใจอยู่ดีว่า นักสานพลังฯ ซึ่งมักมีคำถามตามมาเสมอ และอธิบายกันยืดยาวว่า นนส.คือใคร ทำอะไร อยู่หน่วยงานไหน นั้นโน้นนี้ มากมาย ซึ่งนั่นก็คงคล้ายกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่เมื่อคนถามก็จะอ๋อ!! ในเบื้องต้น แต่เชื่อเถอะครับ เขาไม่เข้าใจหรอกว่า สช. คืออะไร ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะอยากสื่อสารให้สร้างทัศนะที่ลดเรื่องความรู้ แต่เพิ่ม “สัมผัส” เข้าไป

ความจริงแล้วเป็นการยากนะครับ ที่จะอธิบายว่า นนส.คือใคร ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกที่เอียงซ้าย โลกที่เน้นหลักเหตุและผลมากเกินไป จนการอธิบายตัวตนของ นนส. ทำให้เกิดคำถามตามมามากกว่าความเข้าใจ ซึ่งแท้จริงแล้ว นนส. ก็คือพวกเรา คือคนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งทำงานเคลื่อนไหวทางสังคม เป็นจิตอาสา เป็นวิชาการ วิชาชีพ เป็นราชการ การเมือง ที่ทำงานเพื่อขับเคลื่อนปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นให้หมดปัญหาลง ผ่านทักษะและเครื่องมือที่พวกเขามี ถนัด และในเวทีที่เขาเข้าใจ ซึ่งหากว่าด้วยความเป็นนักสานพลังแล้ว สำหรับผมมองว่าเป็น “ทักษะ” ที่แต่ละคนมีอยู่ เพียงแต่กลุ่มที่เรียกตัวตนว่า นนส. คือคนที่ผ่านกระบวนการที่ สช. เป็นผู้เอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้เป็นครั้งๆ นับรวมแล้วเกือบ 300 คนแล้วครับ ที่กระจายตัวอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
 หากหลากหลายกลายเป็นหนึ่ง



ด้วยข้อจำกัดในการพัฒนาศักยภาพในโปรแกรม นนส. ที่สามารถพัฒนาคนเพื่อร่วมสร้างสังคมสุขภาวะได้คราวไม่เกิน 50 คนจึงทำให้เกิดการแบ่งรุ่นปีการฝึกอบรม หรือภูมิภาคการเข้าโปรแกรมเป็นปี พ.ศ. 2555, 2556, 2557 และ 2558 ซึ่งปีหลังนี้จัดขึ้นรายภูมิภาค ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกเกิดความเป็นรุ่นทั้งเหนียวแน่น และแผ่วเบา ทั้งในรุ่นต่อรุ่น หรือรุ่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักหากมองเชิงนิเวศน์ หรือปัจจัยที่ทำให้เขาพวกเขาเป็นเขา เพราะแต่ละรุ่น แต่ละปีก็ต่างมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน แม้เหมือนกันแต่ก็ไม่เหมือนกัน แต่ละคน แต่ละรุ่นคงมีเค้าโครงเป็นไปตามกำหนดการณ์ที่เขียนไว้ แต่เนื้อหาตัวละคร การผจญภัย นั้นไม่เหมือนกันแน่นอน นี่จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ว่า ทำไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น ประสบการณ์ เรื่องเล่า ความรู้สึกร่วม และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างกัน ซึ่งคงน่าแปลกมาก หาก นนส. ในเค้าโครงเดียวกัน แต่จะมีเรื่องเล่า ที่แตกต่างกันซ่อนอยู่ และไม่อาจกลืนเป็นทองแผ่นเดียวกันได้ในทั้งหมด

แต่กระนั้น เหล็กที่หลอมเป็นเฟืองก็คงสร้างประโยชน์ในเครื่องจักรทางสังคมตามบทบาท หน้าที่ของเฟือง ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ได้เสมอ การผ่านโปรแกรม นนส. แม้จะเป็นการต่างที่มา ต่างประวัติศาสตร์ แต่ก็มีจุดร่วมเดียวกัน คือ สำนึกของพลเมือง จิตวิญญาณแห่งสาธารณะ และการเป็นนักขับเคลื่อนทางสังคมเพื่อมุ่งสู่สังคมสุขภาวะ ตามบทบาทที่ตนเองเล่น ว่าไปแล้วก็คงคล้ายกับโรงละครโรงใหญ่ ที่ต่างค่าย ต่างสังกัด แต่มีบทเดียวกัน ที่จะได้แสดงในโรงละครโรงใหญ่โรงเดียวกัน ที่นี่…ประเทศไทย ของเรานี่เอง
 สมัชชาแห่งชาติ นนส.แห่งประเทศไทย

คำถามถัดมากที่ผุดขึ้นแบบคิดมาก ว่าด้วยกระบวนการสมัชชา และบุคคลที่ถูกพัฒนาแบบ นนส. ก็คือ อีกหน่อยการประชุมสมัชชาจะเป็นการ สมัชชาคนบ้านเดียวกัน หรือไม่? นึกๆไปบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อเกิด นนส. จะว่าไปก็เหมือนการสร้างอาสาสมัคร สร้างเครือข่าย แบบเดียวกับที่องค์กรอื่นใช้เป็นกลไกการทำงานเป็นฐานที่มั่นคงขององค์กรนั้นๆหรือไม่? ด้วยความรู้สึกแว้บแรกผมคิดแบบนั้นนะ แต่แล้ว ……

ไม่ใช่การตอบแบบประนีประนอม อวยกัน หรือ หยอดคำหวานให้แก่ สช. แต่คงเป็นเพราะผมได้คุยกับ พี่ชายคนหนึ่งในกระบวนการ นนส.ที่ต่างรุ่น แต่ตกผลึกเหมือนกันว่า อยากกลับไปสร้างนักสานพลังในจังหวัด ซึ่งผลสรุปก็คือ อยากให้คนเหล่านั้นได้เข้าร่วมสมัชชาจังหวัดด้วย ใจหนึ่งก็เลยคิดเสมอเหมือนว่า “เอ…เราเองก็กำลังสร้างเครือข่าย สร้างฐานที่มั่นคงของเราหรือไม่?!!!” คำตอบแบบเข้าข้างตัวเองก็เกิดขึ้นทันทีว่า “ไม่หรอก” (555+) การสร้าง นนส.จังหวัด เพื่อให้เกิดกระบวนการยกระดับผู้คน ค้นหาคนที่ใช่ เข้าสู่วงที่ใช่ ต่างหาก (นั่นแน่!!) นึกๆไปก็รู้สึกขำตัวเองเล็กๆว่า “ชอบสงสัยผู้คน แต่ไม่คิดว่าผู้คนจะสงสัยเราบ้างเลยรึนี่”

“ถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา” สามคำนี้น่าจะเป็นคำตอบของปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ในไม่ช้าการประชุมสมัชชาในระดับชาติ หรือจังหวัด อาจเต็มไปด้วย นนส. ในทุกระดับ ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศไทย อาจมากเกิดกว่าที่ ท่านเลขาธิการฯ (นพ.อำพล จินดาวัฒนะ) ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 5,000 คน  เพียงแต่คนเหล่านั้นจะไม่ใช่เครื่องมือ หรือกองกำลังของเวทีการประชุม ที่เพียงขนคนเข้ามาให้เต็มมาเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่จะเป็นการขายตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

ในระยะหลัง บรรยากาศของสมัชชาสุขภาพฯ เป็นไปเสมือนการเยี่ยมเพื่อนเยือนมิตร ทุกครั้งที่ได้กลับมา สิ่งที่ชวนติดตาม ไม่ใช่การได้เคาะมติ การแสดงโวหาร หรือการวางตัวเป็นผู้แทน แต่เป็นเสน่ห์แห่งการได้กลับมาเยี่ยมเพื่อนเยือนมิตร ติดตาม ปรับทุกข์ และหนุนเสริม พี่น้อง ร่วมทางสาธารณะ ให้เข้มแข็ง มีพลัง และทำงานทางสังคมได้อย่างภาคภูมิ นี่คือเป้าหมายที่อยากเข้าร่วมที่ประชุมมากกว่า บ้างมาเพื่อพบเพื่อน บ้างมาเพื่อหาเพื่อนใหม่ บ้างมาเพื่อต่อยอดโครงการที่ทำ บ้างก็มาเพื่อขัดเกลาแนวคิดให้เข้มข้น ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ต้องการคนที่ใช่ ในพื้นที่ที่ใช่

ฉะนั้นการที่ นนส. จะอยู่เต็มพื้นที่ของ สมัชชาสุขภาพฯ อาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สถานะที่เขาอยู่ คงปะปนกับผู้คนทั่วไป แต่เป็นเสมือนพลังที่แฝงเร้นอยู่ข้างใน และพร้อมที่จะส่งต่อ ผลักดัน ขับเคลื่อนกระบวนการสาธารณะ ทั้งในเวที และพื้นที่ทำงาน นั่นคงเป็นการขายให้ตรงจุด ยิงให้เข้าเป้า เลือกคนคุณภาพ ให้อยู่ในบรรยากาศคุณภาพ

ณ จุดนี้ผมเองเสมือนค้นหากตำตอบของ นนส. หรือหนักสานพลังไปพลาง  และ ณ เวลานี้ผมเคลิ้มว่าสรุปสาระสำคัญของการสร้างนักสานพลังแห่งประเทศไทยได้ว่า เป็นการพัฒนาศักยภาพภายในที่ซ่อนอยู่ เสมือนการผลักดัน Hero ในตัวให้เด่นชัด และพร้อมที่จะลงสู่สนาม หรือกลับมารวมตัวกัน (แบบ The Avenger) ได้ เมื่อประเทศชาติต้องการเรา

โดย นฤเทพ พรหมเทศน์

ภาพ ทรงพล ตุละทา

ที่มา http://www.samatcha.org/areahpp

Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  29th Jun 15

จำนวนผู้ชม:  35611

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   รายงานข่าวสุขภาวะ สานใจสานพลัง

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง