webmaster's News

คสช. หนุนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติสู่ ครม.



คสช. หนุนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติสู่ ครม.



คสช. หนุนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติสู่ ครม. พร้อมส่งเรื่องหลักสูตรแพทย์นานาชาติให้ คกก.กำลังคนด้านสุขภาพพิจารณา 2 มี.ค.นี้ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธาน คสช. ทำหน้าที่แทนประธาน คสช. โดยที่ประชุมให้ความเห็นชอบมติจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ 4 เรื่อง พร้อมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี และส่งเรื่องหลักสูตรแพทย์นานาชาติให้คณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพ มีนายแพทย์มงคล ณ สงขลา เป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 2 มีนาคม ศกนี้ นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการ คสช. แถลงภายหลังการประชุม คสช. ว่า ในการประชุมวันนี้ได้พิจารณามติจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 พ.ศ.2552 ซึ่ง คสช. สนับสนุนให้จัดเมื่อวันที่ 16-18 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพที่สำคัญ 11 ประเด็น ซึ่งที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน เป็นตัวแทนของกลุ่มเครือข่ายทุกจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มเครือข่ายรัฐ กลุ่มเครือข่ายประชาชน กลุ่มเครือข่ายวิชาการ รวม 180 กลุ่มเครือข่าย ซึ่งในการประชุม คสช.ครั้งนี้ได้นำมติจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติพิจารณาทั้งสิ้น 4 เรื่อง ที่ประชุม คสช.มีมติดังนี้ คสช.เห็นชอบให้นำเสนอ “แผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ” ต่อ ครม. เพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ฯ โดยเฉพาะคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ให้จัดทำแผนปฏิบัติการทุกระดับที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือควบคุมและลดปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ของสังคม ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และปริมาณของผู้บริโภคแอลกอฮอล์ ลดความเสี่ยงของการบริโภค จำกัดและลดความรุนแรงของปัญหาจากการบริโภคแอลกอฮอล์ คสช.เห็นชอบให้นำเสนอ “ยุทธศาสตร์ยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม” เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และสุขภาพของผู้ป่วย ต่อ ครม. เพื่อมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จัดตั้งคณะทำงานที่มาจากทุกภาคส่วน ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจยาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการส่งเสริมการขายยาตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก รวมถึงแนวปฏิบัติทั้งในและระหว่างประเทศ ศึกษาระบบการนำหลักเกณฑ์จริยธรรมฯ มาบังคับใช้ในรูปของกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายรับทราบและนำหลักเกณฑ์จริยธรรมฯ ไปประยุกต์ใช้ โดยให้ปฎิบัติงานให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นอกจากนี้มอบหมายให้ 3 หน่วยงานข้างต้น ร่วมกันตั้งคณะทำงานศึกษาพัฒนาข้อเสนอในการจัดตั้งองค์การที่ทำงานอย่างอิสระ ให้ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบ รวบรวมและรายงานสถานการณ์ การส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมในประเทศ โดยมีองค์กรประกอบจากทุกภาคส่วน และให้รัฐจัดสรรและสนับสนุนงบประมาณให้อย่างเพียงพอด้วย คสช. เห็นชอบให้นำเสนอ “ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน” ต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และให้ ครม.มอบหมายให้ คสช.และคณะกรรมการอาหารแห่งชาติจัดทำแผนปฎิบัติการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และสนับสนุนการใช้มาตรการลักษณะ สีสัญญาณ พร้อมคำเตือนในอาหารที่มีไขมัน หรือน้ำตาล และเกลือ ใช้มาตรการทางภาษีและราคาของอพื่อจัดการกับปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน จัดทำระเบียบว่าด้วยการตลาดเกี่ยวกับอาหารที่มุ่งเป้าหมายไปยังเด็ก และมีผลต่อความรุนแรงของภาวะน้ำหนักเกิน โรคอ้วน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมทั้งงติดตามความคืบหน้าในการจัดการปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนอย่างใกล้ชิดด้วย นอกจากนี้ คสช. เห็นชอบเสนอมติ “แผนพัฒนาที่ยั่งยืนบนฐานการพึ่งตนเองด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม กรณีภาคใต้” เสนอต่อ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทบทวนร่างแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน และแผนพัฒนาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษา ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ คำนึงถึงการรักษาฐานทรัพยากรไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตและสุขภาพชุมชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต วัฒนธรรมท้องถิ่น และการกระจายรายได้ควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลโดย ครม.มีมติให้การดำเนินโครงการพัฒนาของภาครัฐและเอกชน คำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน และตั้งกลไกพิจารณาข้อเสนอที่จะชะลอแผนงานและโครงการที่สร้างความขัดแย้ง และมีผลกระทบต่อสังคมและชุมชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต และให้ ครม.มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประสานคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคชุมชน ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบจากการพัฒนาตั้ง “คณะกรรมการทบทวนร่างแผนแม่บทพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และขอให้คณะกรรมการผลักดันแผนฯ ที่ผ่านการทบทวนแล้ว นำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง และให้รัฐบาลโดย ครม.ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้และภาคอื่นๆ อย่างยั่งยืน ด้วย นอกจากนี้ คสช. ยังได้ให้ความเห็นต่อกรณีที่มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมีความพยายามจะเปิดหลักสูตรแพทย์นานาชาติ ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้ว โดยเปลี่ยนชื่อเป็นหลักสูตรแพทย์ภาคภาษาอังกฤษ ก่อให้เกิดกระแสความคิดที่แตกต่างขึ้นในสังคม มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและเห็นต่าง ทำให้คณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีนายแพทย์มงคล ณ สงขลา เป็นประธาน ได้จัดเวทีสาธารณะ “หลักสูตรแพทย์นานาชาติ สังคมได้อะไร” เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการนำผลการจัดเวทีมารายงานต่อ คสช. เพื่อทราบ และที่ประชุมมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อ ครม.ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกำลังคนด้านสุขภาพอยู่แล้ว นำไปพิจารณาเพื่อจัดทำข ้อเสนอเชิงนโยบายต่อไป “ที่ประชุม คสช. ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตรแพทย์ภาษาอังกฤษอย่างกว้างขวาง และเห็นว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับคณะกรรมการกำลังด้านสุขภาพแห่งชาติ และมีกรอบอ้างอิงในการพิจารณา คือ แผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550-2559 ที่ ครม.เห็นชอบแล้วระบุในยุทธศาสตร์ที่ 2 ว่า การปรับเปลี่ยนระบบการผลิตและการพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพเพื่อให้ได้กำลังคนที่เพียงพอ ต้องสอดคล้องกับระบบบริการสุขภาพและระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และใน “ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2552” ที่มีผลผูกพันหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นทางการแล้ว โดยระบุ ให้รัฐมีหน้าที่กำหนดนโยบาย วางแผน ผลิต พัฒนาและกระจายบุคลากรสาธารณสุขอย่างเป็นธรรมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ และควบคุมมิให้เป็นไปตามกลไกตลาดเสรี โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการกำลังคนในวันที่ 2 มีนาคมศกนี้” นายแพทย์อำพลกล่าว

Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  14th May 12

จำนวนผู้ชม:  34929

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   ข่าวสารน่ารู้

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง

ไม่มีข่าว

Thailand Web Stat