Sub Navigation Links

webmaster's News

อาหารเมล็ดจิ๋วสรรพคุณเจ๋ง



อาหารเมล็ดจิ๋วสรรพคุณเจ๋ง



วัชรีพร คงวิลาต
panthaibook@hotmail.com

ธัญพืชหรือข้าวเมล็ดเล็กๆ ที่มนุษย์ทั่วโลกต่างใช้บริโภคในการดำเนินชีวิต นับเป็นพืชที่มีบทบาทและทรงอิทธิพลยิ่งของโลก ธัญพืชนั้นเป็นพืชอยู่ในวงศ์หญ้า ประกอบด้วย ข้าว (ข้าวเหนียวและข้าวเจ้า) ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และเดือย แต่เดือยเป็นเพียงพืชชนิดเดียวที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นอาหารหลักของชาวโลก คนเอเชียบริโภคข้าวเจ้าเป็นอาหารหลัก รองลงมาเป็นข้าวเหนียว ส่วนคนยุโรปบริโภคข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโอ๊ต คนแอฟริกาบริโภคข้าวฟ่าง คนอเมริกากลางและอเมริกาใต้บริโภคข้าวโพด

ข้าวเมล็ดเล็กๆ เหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารมากมาย พบว่าองค์ประกอบหลักของข้าวคือคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก และมีสารอาหารที่สำคัญคือวิตามินต่างๆ ที่พบในเมล็ดข้าวนั้นถือเป็นอาหารที่มีคุณค่ายิ่งนัก เพราะเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันจากโรคภัย อาทิ วิตามินบี 1 ป้องกันโรคเหน็บชา ถ้าขาดจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ กล้ามเนื้อชักกระตุก และป้องกันโรคหัวใจ วิตามินบี 2 มีมากในจมูกข้าว หากขาดวิตามินบี 2 จะระคายเคืองตา ริมฝีปากและผิวหนังแห้งตกสะเก็ด ไนอะซีน ช่วยป้องกันโรคผิวหนังชนิดร้ายแรง และที่สำคัญข้าวโพดเป็นเพียงธัญพืชชนิดเดียวที่อุดมด้วยวิตามินเอ ช่วยให้สายตามองเห็นได้ในที่มืด หรือป้องกันตาบอดกลางคืนนั่นเอง

ข้าว เป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือคาร์โบไฮเดรตที่ต้องใช้เวลาในการย่อยนานกว่าจะได้โมเลกุลเดี่ยวและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด อัตราการความเร็วในการย่อยจะใช้ความเร็วในอัตราเดียวกับอัตราความเร็วในการผลิตอินซูลิน (คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ น้ำอัดลม น้ำหวานต่างๆ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องย่อย) ถ้ารับประทานข้าวให้ได้ประโยชน์ต้องรับประทานข้าวกล้องมีโปรตีนที่สมดุลในด้านองค์ประกอบของกรดอะมิโน นอกจากจะให้พลังงานสูงแล้ว ยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่รำและจมูกข้าว โดยเฉพาะวิตามินบี 1 ที่ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก รวมถึงวิตามินบี 2 วิตามินบี 3 และวิตามินบี 5

ข้าวสาลี มีโปรตีน เส้นใย และแร่ธาตุต่างๆ สูงกว่าข้าวเจ้า โดยเฉพาะข้าวสาลีกล้อง ส่วนที่ถูกขัดออกไปคือจมูกข้าวสาลี หรือวิตเจิร์ม เป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารสูง จะมีรสหวานและกลิ่นหอม

ข้าวโพด เป็นธัญพืชที่ให้แคลอรีและวิตามินเอสูงที่สุด มีโปรตีนมากกว่าข้าว แต่น้อยกว่าข้าวสาลี เมล็ดข้าวโพดมีสรรพคุณบำรุงกระเพาะ บำรุงหัวใจ ปอด ช่วยให้เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ และใช้พอกแผลเพื่อทำให้เยื่ออ่อนนุ่ม หนวดข้าวโพดมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ฤทธิ์ลดความดันเลือด ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ฤทธิ์ลดความเข้มข้นของน้ำดีช่วยกระตุ้นให้น้ำดีไหลมากขึ้น และทำให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น สำหรับน้ำมันข้าวโพดก็ได้รับความนิยมสูงในหมู่คนรักสุขภาพเช่นเดียวกับน้ำมันรำข้าว มีเลทิซิน วิตามินเอและอี ที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย การใช้น้ำมันข้าวโพดปรุงอาหารเป็นประจำจะช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดลงได้ จึงเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงหรือคนอ้วน

ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่ให้พลังงานสูง แป้งที่ได้จากข้าวโอ๊ตเป็นแป้งที่ย่อยง่าย เพราะเอนไซม์ชนิดที่ช่วยย่อยด้วย มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และมีไขมันสูงที่สุดในบรรดาธัญพืชด้วยกัน มีเส้นใยที่ช่วยดูดซับของเสียและสิ่งมีพิษออกจากร่างกายได้ดี มีงานวิจัยที่ชี้ว่าข้าวโอ๊ตช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ดี

ข้าวฟ่าง มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน จากนั้นก็แพร่หลายไปยังอินเดียและญี่ปุ่น เป็นธัญพืชที่แตกต่างจากชนิดอื่น คือเมื่อร่างกายย่อยแล้วจะมีสภาพเป็นด่าง ซึ่งเป็นสภาพเดียวกับร่างกาย และเป็นข้าวชนิดเดียวที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบ 8 ชนิด ในขณะที่ธัญพืชอื่นเมื่อย่อยแล้วจะเป็นกรด เมล็ดแห้ง ใช้ต้มน้ำกินช่วยบำรุงร่างกายและให้พลังงาน รักษาโรคอหิวาตกโรค โรคบิด รากสดหรือแห้ง ใช้ต้มน้ำกิน มีสรรพคุณห้ามเลือด ระงับอาการหอบ ไอ หอบ ระงับอาการปวดกระเพาะ แก้ตกเลือดหลังคลอด ขับปัสสาวะ ช่วยเร่งคลอดทารก

ข้าวไรย์ สารอาหาร เช่น วิตามินบี 1 วิตามิน บี 2 และวิตามินบี อี และมีกรดอะมิโนไลซีนสูง ช่วยเสริมระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกาย

ข้าวบาร์เลย์ ในเมล็ดมีใยอาหารประเภทที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดน้ำหนักและลดการเกิดมะเร็ง มีประโยชน์ในด้านการปรับน้ำตาลในเลือดและลดความดันโลหิตสูง อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินอี วิตามินซี วิตามินเอ รวมถึงเอนไซม์ กรดไฟติก

ลูกเดือย มีรสชุ่มจืด เย็น แก้ร้อนใน บำรุงไต บำรุงม้าม ปอด กระเพาะอาหารม้าม ขับปัสสาวะ รวมทั้งบำรุงเลือดลมในสตรีหลังคลอด รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย แก้ไข้ เหน็บชา ชักกระตุก แก้ตกขาวมากกว่าปกติของสตรี ในตำรายาจีนใช้ลูกเดือยบดผสมข้าว ต้มเป็นข้าวต้มกินทุกวันเพื่อบำรุงกำลังหล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บวมน้ำ ปวดข้อเรื้อรัง และการรับประทานลูกเดือยต้มน้ำตาล ใช้แก้ร้อนในสำหรับน้ำลูกเดือยให้ฟอสฟอรัสสูงมาก ช่วยบำรุงกระดูก รองลงมามีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา บำรุงธาตุ เป็นอาหารสำหรับคนไข้พักฟื้น ช่วยเจริญอาหาร และมีกรดอะมิโนที่กระตุ้นให้เซลล์สมองหลั่งสารที่ทำให้นอนหลับ สมองที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาจะได้หยุดพักชั่วคราว

มีข้อมูลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ว่าสาร coxenolide ในเมล็ดเดือยมีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญของเนื้องอก และพบว่าสารสกัดด้วยน้ำหรือตัวทำละลายอินทรีย์จากรากหรือเมล็ดเดือยมีฤทธิ์ทำให้การหมุนเวียนของเลือดที่ผิวหนังดีขึ้น ทำให้เส้นผมเจริญดีขึ้น ลูกเดือยยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคหูดที่มักจะเป็นเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นเพราะสารจากลูกเดือยมีฤทธิ์ทำให้เลือดมาเลี้ยงที่ผิวหนังดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการทดลองที่ชี้ว่ามีฤทธิ์ยังยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด

เราเป็นประเทศที่ผลิตอาหารเมล็ดจิ๋วสรรพคุณแจ๋ว แหล่งรวมสารอาหารป้องกันก่อนป่วยตัวจริงเป็นอัน ดับหนึ่งของโลกมานานแล้ว คำถามอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะหันมา      

รณรงค์การปลูกข้าวปลอดสารเคมี ทำข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือออกมาจำหน่ายให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักของประเทศและของโลกได้นั่นแหละถึงจะแจ๋วจริงๆ.

ที่มา : ไทยโพสต์

Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  8th Oct 18

จำนวนผู้ชม:  37073

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   ข่าวสารน่ารู้

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง