Sub Navigation Links

webmaster's News

เตือนผู้นิยมสักสวยงาม ระวังติดเชื้อ แพ้สีสัก



เตือนผู้นิยมสักสวยงาม ระวังติดเชื้อ แพ้สีสัก



กระทรวง สาธารณสุข เตือนผู้นิยมรอยสักสวยงามบนร่างกาย ระวังอันตรายจากการสัก อาจแพ้สีที่ใช้สัก เกิดการอักเสบติดเชื้อรุนแรง เช่น ไวรัสตับอักเสบ เชื้อรา เอชไอวี ขอให้เลือกสถานบริการที่สะอาด ไม่ใช้เข็ม และสีสักซ้ำ แนะใช้สติ๊กเกอร์แทททูแทน หรือสักบริเวณที่เหมาะสม เล็กที่สุด และใช้สีเดียว เพื่อให้แก้ไขง่าย


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันการสักผิวหนังเพื่อความสวยงามกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย บางคนสักเพื่อลดระยะเวลาการแต่งหน้า เช่น การสักคิ้ว สักปาก สักแก้ม เป็นต้น การสักในบริเวณที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพในการสมัครทำงานในองค์กรต่างๆ ในอนาคตได้ อีกทั้งขณะนี้เครื่องมือและสีที่ใช้ในการสัก ยังไม่มีการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานใด และไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ของสถานพยาบาลหรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่จะ ต้องขึ้นทะเบียน และควบคุมมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้ผู้ที่ต้องการสักตระหนัก และเลือกใช้สถานบริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย เพราะหากใช้เครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่เปลี่ยนเข็มสัก หรือใช้สีสักขวดเดียวกัน จะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้


นพ.เวสารัช เวสสโกวิท รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เผยว่า รายงานเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการสัก พบได้ร้อยละ 75 ของผู้สักทั้งหมด โดยจะมีอาการเจ็บแสบบริเวณแผล มีอาการคัน บวม เป็นหนอง มึนงง ปวดศีรษะ เป็นไข้ สาเหตุจากการแพ้สีสักและเครื่องมือที่ใช้ในการสักมีการปนเปื้อนเชื้อโรค ต่างๆ บางรายที่สักมาแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเป็นรอยแผลเป็นที่เห็นชัดเจนบน ใบหน้าและร่างกาย ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ที่สำคัญคือหากใช้เข็มซ้ำกับคนอื่น หรือนำสีสักที่เหลือมาสักต่อ ก็อาจติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี เชื้อราหรือเอชไอวีได้


นพ.เวสารัช กล่าวต่อว่า ปัญหาที่พบบ่อยคือการสักเฮนน่า ซึ่งเป็นสีธรรมชาติที่ทำจากรากไม้ ขณะนี้มีผู้สักบางรายแอบนำสีย้อมผมใช้แทนเฮนน่า เพื่อให้มีสีเข้มและติดทนนานขึ้น นอกจากนั้นสีสักมักใช้สีที่ผลิตมาเพื่ออุตสาหกรรม เช่น สีเคลือบรถยนต์ สีหมึกพิมพ์ สีทาบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เนื่องจากจะมีโลหะหนักและสารไฮโดรคาร์บอนก่อมะเร็งผสมอยู่ รวมทั้งหากต้องการลบรอยสักต้องใช้ลำแสงเลเซอร์ ไปทำลายอนุภาคของเม็ดสีให้กระจายตัวออก กลายเป็นสารก่อมะเร็งต่างๆ อาจจะทำให้เกิดมะเร็งตามมา นอกจากนี้ หากผู้ที่สักป่วยและต้องเข้ารับตรวจด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI) ซึ่งเป็นเครื่องแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง จะเกิดการดูดกันระหว่างโลหะหนักที่ผสมอยู่ในสีที่สักกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จากเครื่องตรวจ ผู้ป่วยอาจเกิดอาการแสบร้อนบริเวณรอยสักได้  


ขอแนะนำผู้ที่ต้องการสักลายสวยงามบนผิวหนัง ให้ใช้วิธีติดสติ้กเกอร์แทททูที่สามารถเปลี่ยนลายได้บ่อยๆ แทนการสัก หากต้องการสักจริ ๆ ควรสักบริเวณที่เหมาะสมและเล็กที่สุด ควรใช้สีเดียวในการสัก โดยเฉพาะสีดำ จะแก้ไขรอยสักได้ง่ายกว่าสีอื่น ที่สำคัญควรคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยของสถานที่ เครื่องมือ สีที่ใช้สัก เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดตามมา นพ.เวสารัชกล่าว

Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  4th May 16

จำนวนผู้ชม:  35411

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   ข่าวสารน่ารู้

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง