Sub Navigation Links

webmaster's News

9 วิธีพูดถึง'ความตาย'ให้ธรรมดา



9 วิธีพูดถึง'ความตาย'ให้ธรรมดา



9 วิธีพูดถึง'ความตาย'ให้ธรรมดา

เมื่อพูดถึง "ความตาย" คนส่วนใหญ่อาจจะยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องอัปมงคล จึงหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงหรือนำมาพูดคุยกัน  ในขณะที่วงสนทนาของแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายกลับมีความเห็นว่า "หากใครที่ได้ลองคิด ลองคุยถึงความตาย และมี

การวางแผนชีวิตในช่วงวาระสุดท้ายได้ดี ก็มีโอกาสที่คนๆ นั้นจะสามารถจากโลกนี้ไปได้อย่างสงบ" 6.
          เอกภพ สิทธิวรรณธนะ ผู้จัดการโครงการความตายพูดได้ เครือข่ายพุทธิกาให้คำแนะนำถึงวิธีการพูดคุยเรื่องความตายไว้ 9 ข้อ ดังต่อไปนี้  1. ปรับเปลี่ยนทัศนคติวิธีพูดถึงความตายนั้น ก่อนอื่นผู้พูดจะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียก่อน

อย่าเพิ่งกลัวที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะความเกร็ง ความกลัว จะทำให้คนพูด หรือขณะพูด มีรังสีหรือบรรยากาศแปลกๆ และเครียดจนเกินไป
          "ผู้พูดจะต้องรู้สึกว่ากำลังพูดเรื่องธรรมดาของชีวิต ไม่ใช่เรื่องอัปมงคล จะช่วยทำให้บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ผ่อนคลายมากขึ้น ในขณะที่ผู้ฟังเองก็อาจจะอยากคุยเรื่องนี้กับเราอยู่แล้วก็ได้ แต่อาจจะเกร็ง และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดยัง

ไงก่อนดี โดยเฉพาะใน 9 วิธีพูดถึงผู้สูงอายุ อาจจะคิดถึงเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว" คุณเอกภพอธิบาย
          2. ใช้บรรยากาศ และสถานการณ์แวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่ไปร่วมงานศพ หรืองานรวมญาติ ทำบุญกระดูก เป็นต้น โดย วิเคราะห์จากสถานการณ์ว่าพอจะเอื้อให้เราพูดคุยถึงเรื่องความตายได้หรือไม่ หรือแม้แต่การไปเยี่ยม

ญาติมิตรในโรงพยาบาล ถือเป็นบรรยากาศที่พอจะทำให้เราเปิดประเด็นพูดคุยเรื่องนี้ได้ และการพูดเรื่องความตายก็น่าจะง่ายขึ้น
          3. ตั้งประเด็นคำถาม คุณเอกภพอธิบายต่อว่า พอมีจังหวะก็อาศัยจังหวะเหล่านี้ใช้คำถามที่เป็นประเด็นสนทนาเรื่องความตาย เช่น ถ้าเป็นงานศพก็อาจจะถามว่า "คุณรู้จักคนที่ตายไหม? เขาตายยังไง?  การตายของเขาเป็นยังไง? ถ้า

เป็นงานศพเราล่ะ จะจัดงานแบบไหน?" หรือถ้าเป็นงานรวมญาติก็อาจจะพูดถึงบรรพบุรุษสมัยที่มีชีวิตอยู่ว่า "ท่านดูแลสุขภาพยังไง? ท่านเสียชีวิตอย่างไร?" ซึ่งก็มีหลายคำถามที่สามารถพูดคุยเปิดประเด็นพูดคุยกันได้
          4. เป็นผู้ฟังที่ดี ทีนี้พอถามแล้ว เราก็ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย ซึ่งการตั้งใจฟัง มีสติ ก็เป็นการเปิดโอกาสให้คนที่เราคุยด้วย ได้พูดคุยได้แสดงความคิดเห็นออกมาตามที่เขาได้คิดอย่างเป็นอิสระทำให้การพูด คุยไหลลื่น คุยกันได้มากขึ้น
          5. ยอมรับและตั้งสติ เราอาจจะกลัวว่าคนที่เราพูดด้วยนั้นอาจรู้สึกเป็นกังวล เศร้าเสียใจ หรือร้องไห้ แต่ความกังวลเหล่านี้ที่จะทำให้เราไม่กล้าเปิดใจ เพราะกลัวว่ารับมือกับความรู้สึกสะเทือนใจไม่ได้ ก็ให้ "ตั้งสติ" ว่ามันอาจจะเกิดเหตุ

แบบนี้ได้ทุกเมื่อให้เตรียมใจรับมือ ได้ดีขึ้น.ยอมรับว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น โดยไม่เร่งรัดให้หยุดยั้งอารมณ์เร็วจนเกินไป ไม่ดุด่าว่ากล่าวว่าอย่าร้องไห้ หรือบอกว่ามันไม่ดี แม้กระทั่งถ้าจะมีจังหวะที่เงียบบ้างก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้จังหวะนี้เกิดขึ้น

ได้ บางทีเราสามารถใช้จังหวะนี้ในการบอกรักหรือว่าจับมือ ให้การสัมผัส ให้ความเชื่อมั่นว่าเราจะอยู่เคียงข้างกัน และดูแลกันไปจนตลอดรอดฝั่ง นี่ก็เป็นวิธีการรับมือกับอารมณ์เหล่านี้ด้วยเหมือนกัน
          6. ส่งสัญญาณเตือน บางทีเราก็จำเป็นต้องพูดเรื่องเหล่านี้ เพราะอาจจะต้องบอกข่าวร้าย หรือต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ ดังนั้นก่อนจะพูด ต้องส่งคำเตือนก่อนว่าเราจะพูดเรื่องสำคัญ เช่น
          นัดหมายว่าจะคุยเรื่องสำคัญ บอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแตกต่างออกไปว่าจะคุยเรื่องความเป็นความตาย หรือเรื่องที่จริงจังในชีวิต และนัดหมายเวลา สถานที่ ส่งสัญญาณให้คนที่เราอยากจะคุยด้วยให้เขาทำใจเอาไว้
          7. ใช้เกมเดาใจ ผู้พูดสามารถชวนคุยโดยการเล่นเกมเดาใจ โดยการตั้งคำถามว่า ถ้าเกิดสถานการณ์แบบนี้ คุณจะทำอย่างไรกับฉัน เช่น ถ้าวันหนึ่งพบว่าฉันนอนยิ้ม หลับตาและหยุดหายใจไปแล้ว ตัวยังอุ่นอยู่ ให้ลองเดาใจว่าฉัน

อยากให้เธอพาไปโรงพยาบาลไหมการบอกความต้องการว่า ในสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ แต่ละคนต้องการอะไร ถึงแม้จะเดาผิด เดาถูกก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้คุยกัน ทำความเข้าใจกัน
          8. เขียน Living Will หนังสือแสดงเจตนาเลือกวิธีการรักษาในช่วงระยะท้ายของชีวิต ซึ่งสามารถใช้แบบฟอร์มของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ก็ได้ หรือเขียนเองตามแนวคำถามก็ได้
          9. ใช้สื่อหรือเครื่องมืออื่น ๆ อาจจะเป็นการดูหนังที่มีประเด็นเกี่ยวข้องเหล่านี้ หรือว่าอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือก เพิ่มขึ้นมากมาย
           เมื่อทุกคนสามารถพูดคุยและยอมรับได้ว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เมื่อเจอวิกฤติ เช่น ข่าวร้ายหรืออาจจะต้องเลือกวิธีการรักษา คนเหล่านั้นจะตั้งสติได้เร็ว รวมไปถึงมีวิธีการรักษา วิธีการปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างมีสติ และนำ

มาสู่การตัดสินใจที่มั่นคง เหมาะกับผู้ป่วย ไม่ตื่นตระหนกตกใจ และรับมือสถานการณ์ได้ดีขึ้น.
          ข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th


ที่มา : เดลินิวส์
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

Facebook

เข้าสู่ระบบ to rate

อันดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่อัพโหลด:  3rd Nov 15

จำนวนผู้ชม:  34862

ความคิดเห็น:  0

ข่าวที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   มาตรา12

แจ้งข่าวไม่เหมาะสม

ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ถึ่งเพื่อน

๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวข๏ฟฝอง