เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) นพ.พิบูล อิสระพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักโรคจากการประกอบอาชีพ กรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวในเวที สช.เจาะประเด็น "นโยบายเกษตรเพื่อสุขภาพ : แบน 4 สารเคมีเกษตรก่อมะเร็ง" ว่า ในปี 2554 ประเทศไทยนำเข้าสารกำจัดศัตรูพืชสูงถึง 20,875 ล้านบาท หรือประมาณ 520,312 ตัน เท่ากับขวดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 46 เมตร สูงเท่าตึกใบหยก 2 โดยที่ผ่านมาได้ทำการศึกษาประเมินความเสี่ยงกลุ่มเกษตรกรและประชาชนทั่วไป โดยในปี 2554 ทำการตรวจเลือดเกษตรกร 74 จังหวัด จำนวน 533,524 ราย พบว่ามีสารเคมีปนเปื้อนในเลือดเกินมาตรฐานคือ 100 ยูนิต ถือว่าไม่ปลอดภัยถึง 173,243 ราย ส่วนประชาชนทั่วไปตรวจเลือด 99,283 รายพบไม่ปลอดภัย 35,949 ราย

นพ.พิบูล กล่าวอีกว่า จังหวัดที่มีอัตราป่วยจากสารกำจัดศัตรูพืชมากสุด 10 อันดับแรก คือ จ.ตาก จำนวน 205 ราย รองลงมา จ.จันทบุรี 176 ราย จ.อุทัยธานี 105 ราย จ.ชัยนาท 103 ราย จ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี จ.แม่ฮ่องสอน และจ.กำแพงเพชร ในปี 2555 ยังทำการตรวจเลือดเกษตรกร 16 จังหวัด 152,846 ราย พบไม่ปลอดภัย 46,016 ราย สำหรับสารเคมีที่อันตรายมีหลายชนิด แต่ที่ร้ายแรงและต้องเร่งควบคุม 4 กลุ่ม ได้แก่ คาร์โบฟูราน เมโทมิล ไดโครโตฟอส และอีพีเอ็น ซึ่งสารเหล่านี้ส่งผลต่อระบบประสาทเป็นหลัก โดยจะไปเกาะกับเอนไซม์ในร่างกาย ทำให้การทำงานผิดปกติ ระยะสั้น มีผลต่อผิวหนังอักเสบ มึนงง เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นช้า ลำไส้บิดตัว ปวดท้อง ซึมลง หมดสติ หากโคม่าอาจเสียชีวิตได้ ส่วนผลระยะยาว มีผลต่อการพัฒนาการของสมอง ปอดเป็นผังผืด ความจำเสื่อม ความผิดปกติของทารก เป็นต้น สารเหล่านี้จึงอันตรายมาก ในปี 2554 ได้จำแนกการเจ็บป่วยตามโรคร่วม โดยหาสาเหตุได้ 6,885 รายจาก7,395 ราย พบว่าได้รับสารกำจัดศัตรูพืชโดยอุบัติเหตุ 1,576 ราย ได้รับสารโดยไม่เจตนา 359 ราย และที่น่าห่วงคือ ตั้งใจทำร้ายตนเองด้วยสารเหล่านี้ถึง 5,087 ราย

ด้านผศ.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ผลกระทบจากสารเคมีทั้ง 4 ตัวมีมากมาย ทั้งพิษเฉียบพลันรุนแรง ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ชัก ยังส่งผลต่อหัวใจ ระบบสืบพันธุ์ ทำลายอสุจิ และในระยะยาวอาจเป็นมะเร็ง เบาหวาน อีกทั้ง อันตรายของสารเคมียังถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดโดยนำมาทำร้ายตนเองมากขึ้นอีก รัฐบาลควรยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าว เพราะขณะนี้หลายประเทศ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปเข้มงวดในการนำเข้าสินค้าที่มีสารปนเปื้อน ซึ่งสินค้าไทยก็เคยถูกแบนไม่ให้นำเข้ามาแล้ว ถึงเวลาที่คนไทยต้องตื่นตัวเพื่อป้องกันตนเอง

ศ.สุปรีดิ์ วงศ์ดีพร้อม สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) กล่าวว่า สป.ได้ทำเรื่องเสนอไปยังรัฐบาลขอให้ยกเลิกการขึ้นทะเบียน และห้ามมีสารเคมีเกษตรทั้ง 4 ชนิดไว้ในครอบครอง ซึ่ง ครม.มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการรับฟังความคิดเห็น โดยสป.เห็นว่าควรยกเลิกการใช้เสีย และควรปรับปรุงการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายใหม่ ให้มีคณะกรรมการวิชาการที่มาจากหลายฝ่ายช่วยกันพิจารณา รวมทั้งเปิดโอกาสรับฟังเหตุผลของหน่วยงานวิชาการอื่นในการพิจารณาการขึ้น ทะเบียนด้วย

นางอรพรรณ ศรีสุขวัฒนา รองเลขาธิการ สช. กล่าวว่า นายยุคล ลิ้ม แหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยประกาศเดินหน้าไม่ใช้สารเคมี 4 ตัวนี้ หากทำได้จริงจะเป็นความกล้าหาญมาก เนื่องจากสารเคมีดังกล่าวมีอันตรายสูง และหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ลาว มาเลเซีย ยกเลิกแล้ว