Sub Navigation Links

รายงานข่าวสุขภาวะ ภาคใต้ สานใจสานพลัง 17 มีนาคม 2563 ตอน สร้างสุขที่ปลายทาง : ชัยวุฒิ เกิดชื่น

* * *ชัยวุฒิ_เกิดชื่น รายงานข่าวสุขภาวะภาคใต้ รายงานข่าวสุขภาวะ_สานใจสานพลัง สร้างสุขที่ปลายทาง สุขปลายทาง สิทธิการตายตามธรรมชาติ การดูแลแบบประคับประคอง ผู้ป่วยระยะสุดท้าย มาตรา12 พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ* * *
Facebook
download

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3138

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3232

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3092

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3041

สช. จับมือเครือข่ายยกระดับความเข้าใจสิทธิการตายตามธรรมชาติและการดูแลแบบประคับประคองผู้ป่วยระยะสุดท้ายตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพฯ ด้าน สธ. เตรียมผลักดันหน่วยบริการแบบประคับประคองใน รพ.- ศูนย์บริการปฐมภูมิในพื้นที่ วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2563) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ฯ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จับมือองค์กรภาคีกว่า 10 หน่วยงาน ร่วมจัดงาน ‘สร้างสุขที่ปลายทาง’ ครั้งที่ 3 เพื่อยกระดับการรับรู้ของสังคมต่อการสร้างสุขภาวะในระยะสุดท้ายของชีวิตตามเจตนารมณ์ของ มาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 และขับเคลื่อนสู่ระบบบริการสุขภาพในระดับพื้นที่ ทั้งนี้ มาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติฯ ได้รับรองสิทธิของบุคคลในการทำหนังสือเจตนาไม่ประสงค์รับบริการสาธารณสุขที่เป็นเพียงเพื่อการยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย โดยการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง พร้อมทั้งคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่ได้ปฏิบัติตามเจตนาของบุคคลที่ได้ทำหนังสือแสดงไว้ ให้ถือว่าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดและพ้นจากความรับผิดทั้งปวง นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การรับรู้ของประชาชนรวมถึงบุคลากรด้านสาธารณสุขในเรื่องการดูแลแบบประคับประคองผู้ป่วยระยะสุดท้าย (palliative care) และสิทธิการตายตามธรรมชาติ ยังมีอยู่จำกัด เพราะองค์ความรู้เหล่านี้เพิ่งเริ่มมีในประเทศไทยไม่นานนัก อีกทั้งการขับเคลื่อนต้องอาศัยการทำงานร่วมกันจากหลายฝ่าย จึงมีการจัดเวทีนี้ขึ้นเพื่อให้ภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการแนวทางการทำงานและนำไปสู่การขยายผลพัฒนาองค์ความรู้ต่อไปในระยะยาว รวมถึงสนับสนุนให้เกิดกระบวนการการสื่อสารทางสังคมเพื่อยกระดับการรับรู้ของสังคม

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งระบุถึงสถานการณ์ที่นำมาซึ่งความจำเป็นในการผลักดันเรื่องนี้ว่า ปี 2563 ผู้สูงอายุในประเทศไทยมีจำนวน 11.13 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 16.73 ของประชากรทั้งหมด อีก 4 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 20 และจะนับเป็น ‘สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์’ นอกจากนี้ผู้ป่วยเรื้อรังก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นักวิชาการคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีผู้ป่วยระยะสุดท้ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านสาธารณสุขและสังคมให้มีความเข้าใจในการดูแลแบบประคับประคองเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต บำบัด เยียวยา และบรรเทาความทุกข์แก่ผู้ป่วยทั้งทางกาย อารมณ์ สังคม จิตวิญญาณ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนกระทั่งเสียชีวิต โดยครอบคลุมถึงครอบครัวของผู้ป่วยด้วย อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวอีกว่า หนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา 12 ที่ผู้ป่วยจัดทำไว้ล่วงหน้า จะเป็นเครื่องมือช่วยสื่อสารระหว่างผู้ป่วย ญาติ และผู้ให้การรักษาให้มีความเข้าใจตรงกันในความต้องการของผู้ป่วยเมื่อไม่มีสติสัมปชัญญะแล้ว ทำให้บุคลากรในระบบสุขภาพสามารถวางแผนการรักษาล่วงหน้า โดยมีการพูดคุยกับผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อีกทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ไม่จำเป็นรวมถึงภาระงานของบุคลากรสาธารณสุข ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายสนับสนุนเรื่องการดูแลแบบประคับประคองผ่านแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โดยมีกรมการแพทย์เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน

ปัจจุบัน สามารถขยายงานไปยังเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ โดยมีการอบรมให้บุคลากรด้านสาธารณสุขมีความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ พัฒนาระบบการเข้าถึงยา กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดนโยบายให้ระบบบริการดูแลแบบประคับประคองเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาระบบสุขภาพ เพื่อเป็นกรอบและแนวทางพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานในการดูแลวาระท้ายของชีวิตของประชาชนชาวไทย

login to rate

ระดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่:  23rd Mar 20

จำนวนผู้ฟัง:  1176

แสดงความคิดเห็น:  0

เพิ่มเป็นเสียงที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   รายงานข่าวสุขภาวะ

แจ้งเสียงไม่เหมาะสม

เพิ่มเป็นเสียงที่ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ให้เพื่อน


(สามารถนำโค๊ดนี้ไปแสดงที่เว็บไซต์หรือ MySpace,Friendster,Blogger ของคุณได้!)