เชียงราย เตือนย้ำ อย่าซ้ำเติม ด้วยการเผา หมอกควันไฟเพิ่มมลพิษขึ้นอีก ไฟป่าลุกลามบริเวณกว้างในเขตพื้นที่ดอยนางแล อำเภอเมืองเชียงราย หลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายระดมช่วยกันทำแนวกันไฟป้องกันการลุกลามเข้าเขตอันตราย
เมื่อค่ำคืนที่ 28 มีนาคม 2559 เมื่อเวลา 21.00 น. จนถึงรุ่งเช้าอีกวัน พบไฟป่ากำลังลุกไหม้เป็นบริเวณกว้างร่วมกว่า 500 ไร่ บริเวณรอยต่อป่านางแลในกับป่าแม่ข้าวต้มห้วยลึก ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบ้านนางแลใน หมู่ที่ 7 ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย โดยไฟได้ลุกไหม้มาตั้งแต่ช่วงกลางวัน แต่ว่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงเวลากลางคืน ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนที่ล่าสัตว์ป่า หาของป่า จากตำบลใกล้เคียงหลังจากนั้นไฟได้ลุกลามมายังพื้นที่ดังกล่าว โดยมีเขตติดต่อกัน คือ ตำบลนางแล ตำบลบ้านดู่ ตำบลท่าสุด และตำบลแม่ยาว
อย่างไรก็ตามเปลวไฟก็ยังลุกลามขยายพื้นที่ไหม้อย่างต่อเนื่อง และลุกลามมาจนใกล้แนวเขตอันตรายที่จะมาถึงพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านและชุมชน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามดับไฟ และทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันการลุกลาม โดยระดมเจ้าหน้าที่อาสาป้องกันไฟป่าจากบ้านนางแลใน และหมู่บ้านใกล้เคียงรวมทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยาน เข้าทำแนวกันไฟอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของนายบุญส่ง เตชะมณีสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในช่วงรณรงค์งดและห้ามเผา 60 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 จนถึงวันที่ 16 เมษายน 2559 เนื่องจากในช่วงหน้าแล้งของทุกๆปี ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม พื้นที่ภาคเหนือมักประสบกับปัญหาหมอกควัน ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการเผาพื้นที่เกษตร การเผาวัชพืชริมทาง ไฟป่า และการเผาในชุมชน ก่อให้เกิดหมอกควัน ฝุ่นละออง เถ้าเขม่าควัน และสภาพอากาศที่แห้งและนิ่ง ทำให้ฝุ่นละอองแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม บดบังทัศนวิสัย และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และในช่วงเวลาดังกล่าว ยังพบการเพิ่มขึ้นของจุดความร้อน อันเป็นสาเหตุหลักของมลพิษหมอกควันข้ามแดน ทางการ เน้น ย้ำ ประชาสัมพันธ์ เตือนประชาชนทุกพื้นที่ ในจังหวัดเชียงราย ห้ามเผาโดยเด็ดขาด เพราะมีโทษทั้งจำและปรับหนักด้วย.
สุนี บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ จ.เชียงราย รายงาน